เอเอฟพี – เหตุการณ์กบฏมุสลิมบุกยึดเมืองท่าซัมบวงกา (Zamboanga) ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์เพื่อต่อต้านการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลมะนิลา สิ้นสุดลงแล้วในวันนี้(28) โดยมีกลุ่มติดอาวุธถูกสังหารและจับกุมเกือบ 500 คน ขณะที่ตัวประกันเกือบ 200 ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย กองทัพฟิลิปปินส์แถลง
“เหตุรุนแรงที่เมืองซัมบวงกาจบสิ้นลงแล้ว ไม่มีฝ่ายศัตรูหลงเหลืออยู่อีก” พันโทรามอน ซากาลา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
เป็นเวลาเกือบ 3 สัปดาห์ที่กองกำลังของรัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องต่อสู้กับกลุ่มแนวร่วมปลดแอกแห่งชาติโมโร (MNLF) ซึ่งคัดค้านแผนเจรจาสันติภาพระหว่างกบฏมุสลิมกับรัฐบาลมะนิลา ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจก็จะรับหน้าที่ตามล่าสมาชิก MNLF บางคนที่ยังซ่อนตัวอยู่ในเมือง รวมถึงแกนนำกลุ่มติดอาวุธซึ่งยังหาตัวไม่พบ
กองทัพแถลงว่า นูร์ มิซูอารี ซึ่งก่อตั้งกลุ่มกบฏ MNLF ขึ้นเมื่อต้นทศวรรษ 1970 ได้ส่งสมุนคู่ใจ ฮาบิเยอร์ มาลิก และสาวกอีกหลายร้อยคนมายังเมืองซัมบวงกาเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยหวังก่อเหตุรุนแรงเพื่อล้มแผนเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มแนวร่วมปลดแอกอิสลาม (MILF) ซึ่งเป็นกบฏมุสลิมกลุ่มใหญ่ที่สุดในประเทศ
เหตุปะทะครั้งนี้ทำให้มีทหารตำรวจเสียชีวิตรวม 23 นาย พลเรือนถูกสังหาร 12 คน นอกจากนี้ยังมีกองกำลังความมั่นคงและพลเรือนได้รับบาดเจ็บอีก 180 นาย และ 72 ราย ตามลำดับ
กลุ่มติดอาวุธได้จับชาวบ้านนับร้อยคนเป็นตัวประกัน ขณะซ่อนตัวอยู่ตามหมู่บ้านชายทะเลของเมืองซัมบวงกาที่มีประชากรราว 1 ล้านคน ทำให้กองกำลังของรัฐบาล 4,500 นายที่ถูกส่งเข้าไปกวาดล้างกบฏทำงานได้ยากลำบากขึ้น
การต่อสู้ส่งผลให้บ้านเรือนถูกทำลายราบคาบไปกว่า 10,000 หลัง และประชาชนกว่า 100,000 คน หรือราว 1 ใน 10 ของเมืองต้องอพยพหนีตาย
เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์แถลงวันนี้(28)ว่า ตัวประกันทั้ง 195 คนน่าจะหลบหนี, ได้รับความช่วยเหลือ หรือถูกปล่อยตัวออกมาเรียบร้อยแล้ว
“สถานการณ์ตอนนี้บ่งบอกว่า ไม่มีตัวประกันหลงเหลืออยู่อีก” พลจัตวา โดมิงโก ทูทาน โฆษกกองทัพ แถลงต่อสื่อมวลชนที่กรุงมะนิลา ขณะที่โฆษกหญิงของประธานาธิบดี เบนิโญ อากิโน ก็ยืนยันตรงกันว่า ตัวประกันทั้งหมดปลอดภัยดีแล้ว
วอลแตร์ กัซมิน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย มาร์ โรซัส ได้เดินทางไปยังถนนมาร์ธาในเมืองซัมบวงกา ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการปะทะรุนแรงที่สุด เพื่อชักธงชาติฟิลิปปินส์ขึ้นเหนือโกดังหลังหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มติดอาวุธ MNLF
พันโท รามอน ซากาลา โฆษกกองทัพ ได้ให้สัมภาษณ์จากเมืองซัมบวงกาว่า มีกลุ่มติดอาวุธถูกสังหารไปทั้งสิ้น 183 คน ส่วนอีก 292 คนถูกจับกุมตัวได้ หรือเลือกที่จะวางอาวุธเอง
กบฏมุสลิมทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์พยายามต่อสู้เพื่อขอปกครองตนเองหรือตั้งรัฐใหม่มาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 โดยมีพลเรือนถูกสังหารไปไม่ต่ำกว่า 150,000 คนในเหตุรุนแรงต่างๆ
MNLF เคยทำข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลเมื่อปี 1996 ซึ่งให้อำนาจปกครองตนเองบางส่วนต่อชาวมุสลิมภาคใต้ ทว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกบฏกลุ่มใหญ่ MILF ซึ่งมีสมาชิกราว 12,000 คน
มิซูอารี หัวหน้ากลุ่ม MNLF เกรงว่าข้อตกลงจัดตั้งเขตปกครองตนเองที่รัฐบาลกำลังเจรจากับ MILF โดยมีทีท่าว่าอาจจะตกลงกันได้เร็วๆ นี้ จะกีดกันกลุ่มของเขาออกไปนอกวง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักรบเพื่ออิสรภาพอิสลามบังซาโมโร (BIFF) ที่แยกตัวออกมาจากกลุ่ม MILF เพราะไม่ต้องการแค่ปกครองตนเอง แต่ยังเรียกร้องให้แยกดินแดนของชาวมุสลิมภาคใต้ออกเป็นประเทศเอกราชด้วย