เอเอฟพี – ขณะที่การต่อสู้กันระหว่างกลุ่มกบฏกับทหารฟิลิปปินส์กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านหลายสิบคนซึ่งถูกจับเป็นตัวประกันก็สามารถหนีรอดออกมาได้อย่างปลอดภัยในวันนี้ (17 ก.ย.) แต่ผู้กำกับการตำรวจเมืองซัมบวงกาถูกกลุ่มกบฏลักพาตัวไปแทน เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ระบุ
มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 99 ราย และประชาชน 70,000 คนพากันอพยพออกจากบ้านเรือน นับตั้งแต่การประจันหน้ากันในซัมบวงกา เมืองท่าทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อกว่าหนึ่งสัปดาห์ก่อน เมื่อกลุ่มนักรบติดอาวุธสังกัดแนวร่วมปลดแอกแห่งชาติโมโร (เอ็มเอ็นแอลเอฟ) พยายามที่จะชักธงประกาศเอกราชในศาลาว่าการเมืองซัมบวงกา
พลเรือนอีกหลายร้อยคนยังคงติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ขณะที่กลุ่มกบฏพยายามหลบการจู่โจมของทหารในหลายย่านมุสลิมของเมืองซัมบวงกา โดยทหารเผยว่ากลุ่มกบฏจับชาวบ้านบางส่วนเป็นตัวประกันหรือโล่มนุษย์
วันนี้ (17 ก.ย.) ทหารออกมาระบุว่า การโจมตีอย่างต่อเนื่องซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 ก.ย.) รวมทั้งการโจมตีด้วยจรวดจากเฮลิคอปเตอร์ ต่างก็ประสบความสำเร็จด้วยดี
“ในช่วงเวลา 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา เราสามารถช่วยชาวบ้านออกมาได้ 116 คน ด้วยการใช้กำลังทหารภาคพื้นดินเข้ากดดัน” พันโทรามอน ซากาลา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี
ช่างภาพสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (17) ชาวบ้านทั้งชาย หญิง และเด็ก จำนวนหลายสิบคนที่มีอาการผวาระเบิดได้ถูกพาอพยพออกจากแนวรบ ไปอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีตำรวจคอยรักษาความปลอดภัย
ซากลาลากล่าวว่า ทหารสามารถยึดพื้นที่ซึ่งกองกำลังเอ็มเอ็นแอลเอฟยึดครองไว้ คืนมาได้กว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยเป็นพื้นที่ในย่านริมชายฝั่งสองแห่ง ที่มีสู้รบกันอย่างดุเดือดนับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6)
การใช้เฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดโจมตีฐานที่มั่นของกบฏในช่วงสั้นๆ เมื่อวานนี้ (16) ได้ทำให้พวกนักรบติดอาวุธพากันหลบหนีออกจากพื้นที่บางส่วนของหมู่บ้าน เป็นผลให้ทหารภาคพื้นดินสามารถบุกเข้าประชิดพื้นที่ได้มากขึ้น เขาชี้แจง
ซากาลาแจ้งว่า ไม่มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศ ภายหลังที่บรรดากลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแสดงความหวั่นวิตกว่าชาวบ้านที่ยังไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่จะได้รับอันตราย
อย่างไรก็ตาม ซากาลาระบุว่ามีนักรบกลุ่มเอ็มเอ็นแอลเอฟราว 100 คนที่ยังคงสู้ต่อ และยังไม่สามารถระบุจำนวนของประชาชนที่ยังติดอยู่ในพื้นที่ปะทะหรือถูกจับเป็นตัวประกันได้แน่ชัด
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (17) มีเหตุการณ์เหลือเชื่อเกิดขึ้น เมื่อ ชีกีโต มาลาโย ผู้กำกับการตำรวจเมืองซัมบวงกาได้ถูกกลุ่มกบฏลักพาตัวไป
ในเวลานั้น มาลาโยพร้อมทั้งลูกน้องอีก 3 คนเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อปิดกั้นเส้นทางหนีของกลุ่มกบฏ แต่เนื่องจากพวกกบฏมีจำนวนมากกว่าจึงจับตัวเขาไป ทหารพลาธิการระบุ
“เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งย้ำเตือนว่าพื้นที่นี้ไม่ปลอดภัย” พลจัตวาโดมิงโก ตูตาน โฆษกของกองทัพฟิลิปปินส์กล่าวยืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพี
นักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ได้ยินเสียงปืนดังกึกก้องตลอดทั้งคืนวานนี้ (16) และในช่วงก่อนรุ่งสางของวันนี้ (17) เนื่องจากทหารได้อาศัยช่วงที่ยังมืดอยู่ขยับเข้าใกล้ที่มั่นของกลุ่มกบฏมากขึ้น
นักข่าวผู้นี้ระบุเพิ่มเติมว่า การสู้รบกันในวันนี้ไม่รุนแรงนัก และมีร้านค้าบางแห่งเริ่มเปิดบริการเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการณ์ครั้งนี้ แม้ว่าโรงเรียน ท่าอากาศยาน และท่าเรือข้ามฟากยังคงปิดทำการอยู่ตามเดิม
ในตอนแรก กลุ่มกบฏได้จับชาวบ้านหลายสิบคนเป็นตัวประกัน และเผาบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ส่งผลให้ซัมบวงกา เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่เกือบหนึ่งล้านคน และเป็นศูนย์กลางการค้าของภาคใต้แห่งนี้ เงียบสงัดจนจนแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง
ทั้งนี้ กองทัพฟิลิปปินส์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุปะทะกันทั้งหมด 99 ราย โดยเป็นกลุ่มกบฏเอ็มเอ็นแอลเอฟ 86 ราย เป็นเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงของรัฐบาล 9 ราย และเป็นพลเรือน 4 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเด็ก 2 ขวบที่ทางการระบุว่าถูกจับเป็นตัวประกันก็เสียชีวิตแล้วเช่นกัน