เอเจนซีส์ - กบฏมุสลิมกลุ่ม MNLF ซึ่งต่อต้านการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์กับกลุ่มกบฏ MILF ที่เป็นคู่แข่งกับพวกตน ในวันนี้ (12ก.ย.) ได้เปิดแนวรบใหม่ที่เมืองลามิตัน จังหวัดบาสิลัน ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองซัมบวงกา ที่มีประชาชนราวร้อยคนถูกจับเป็นตัวประกันตั้งแต่วันจันทร์ (9)
นักรบสังกัดลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร (MNLF) ได้ยกกำลังเข้าโจมตีที่ตั้งทางทหารบนเกาะบาสิลันในช่วงรุ่งสางวันนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 คนและสูญหาย 5 คน
มูจีฟ ฮาตามัน ผู้ว่าการภูมิภาคดังกล่าว เผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถขับไล่กลุ่มผู้ถืออาวุธเหล่านี้ออกไปได้แล้ว รวมทั้งได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
บาสิลันเป็นเกาะที่มีทะเลแคบๆ กั้นจากซัมบวงกา เมืองท่าใหญ่ทางภาคใต้ฟิลิปปินส์ซึ่งนักรบของ MNLF ราว 180 คน ได้บุกโจมตีและปะทะกับกองทัพฟิลิปปินส์เป็นระยะตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (9) โดยที่พวกเขาพยายามบุกเข้าไปปักธงกลุ่มของตนที่ศาลาว่าการเมืองสำคัญแห่งนี้ ทว่าทางการขัดขวางไม่ยินยอม
วิกฤตการณ์นี้ทำให้ซัมบวงกาที่เป็นเมืองการค้าและมีประชากรเกือบล้านคนกลายเป็นอัมพาต เที่ยวบินและเรือข้ามฟากหยุดให้บริการ ชุมชนหมู่บ้านหลายแห่งบริเวณชานเมืองกลายเป็นสนามรบ โดยมียานยนต์หุ้มเกราะของทางการออกลาดตระเวนบนท้องถนน กำลังทหารเข้าไปตั้งที่มั่นในโรงเรียน ขณะที่มีพลซุ่มยิงอยู่บนยอดอาคาร และมัสยิดหลายแห่งเต็มไปด้วยรอยกระสุน
ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ได้ส่งรัฐมนตรีระดับอาวุโส และนายทหารใหญ่รวมทั้งตัวประธานเสนาธิการทหารร่วม ไปควบคุมสถานการณ์ในภาคใต้ของประเทศซึ่งประชากรจำนวนมากเป็นชาวมุสลิม
มาร์ โรแซส รัฐมนตรีมหาดไทยเผยว่า มีประชาชนเกือบ 15,000 คนต้องหลบหนีออกจากที่อยู่อาศัย และกองทัพได้รับคำสั่งให้ป้องกันไม่ให้กลุ่มกบฏยึดพื้นที่ได้เพิ่ม
พันเอกร็อดริโก เกรเกอริโก โฆษกกองทัพประจำภูมิภาคดังกล่าว เผยว่า ยังมีกองโจรที่เชื่อมโยงกับ MNLF อีก 2 กลุ่ม มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีในบาสิลัน ซึ่งเป็นเกาะที่มีพื้นที่ป่าเหมาะแก่การเป็นที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธ
ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันที่ 4 ที่ MNLF บุกซัมบวงกา กบฏกลุ่มนี้ยิงปืนครกตลอดจนลอบยิงกองกำลังฟิลิปปินส์ที่รุกล้ำเข้าสู่ที่มั่นของพวกเขา
นับรบเหล่านี้เป็นสมุนของ นูร์ มิซูอารี ผู้ก่อตั้งขบวนหาร MNLF ที่เริ่มก่อกบฏเพื่อแบ่งแยกดินแดนจากฟิลิปปินส์มาตั้งแต่ปี 1971 แล้วต่อมาก็ได้เจรจาและลงนามข้อตกลงสันติภาพกับรัฐบาลในปี 1996
มิซูอารีได้ออกมาประกาศ “เอกราช” อีกครั้งในเดือนที่แล้ว หลังจากกล่าวหาว่า รัฐบาลละเมิดข้อตกลงสันติภาพปี 1996 ที่ทำไว้กับ MNLF ซึ่งมีการระบุให้จัดเขตปกครองตนเองของชาวมุสลิมทางภาคใต้ จากการที่รัฐบาลกำลังไปเจรจาข้อตกลงสันติภาพ โดยที่จะมีการส่งมอบอำนาจการปกครองตนเองในภูมิภาคที่กว้างขวางยิ่งขึ้นอีก ให้แก่แนวร่วมปลดแอกอิสลามโมโร (MILF) ภายในปี 2016 ทั้งนี้ MILF เป็นกลุ่มที่แยกตัวออกมาจาก MNLF และเวลานี้กำลังกลายเป็นกลุ่มกบฏมุสลิมสำคัญที่สุดในภาคใต้ฟิลิปปินส์ แทนที่ MNLF ไปแล้ว
ทว่า มะนิลายืนยันว่า ข้อตกลงที่กำลังเจรจากับ MILF นี้ เป็นการต่อยอดข้อตกลงกับ MNLF เพื่อยุติความรุนแรงในภาคใต้ฟิลิปปินส์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 150,000 คน
เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธของ MNLF ซึ่งยังคงอยู่ในหมู่บ้านชายฝั่ง 6 แห่งในเขตชานเมืองซัมบวงกา ได้จับตัวประกันราว 80-180 คนเพื่อใช้เป็น “โล่มนุษย์” โดยที่ได้มัดตัวประกันเหล่านี้และนำมารายล้อมอยู่รอบๆ พวกตน
คอราซอน โซลิมาน รัฐมนตรีสวัสดิการสังคม ระบุว่า กำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่า พวกถืออาวุธเหล่านี้ได้ข่มขืนตัวประกันบางส่วน ตามที่ได้รับรายงานจากชาวบ้านที่หนีรอดมาได้
ขณะที่ พันเอกเกรเกอริโกเสริมว่า ทหารหน่วยรบพิเศษหลายร้อยคนที่มีกำลังตำรวจร่วมสนับสนุนสามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏ แต่ไม่สามารถดำเนินการขั้นเด็ดขาดได้เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวประกัน
นอกจากทหารที่ได้รับบาดเจ็บในบาสิลันแล้ว ยังมีทหารอีกหนึ่งคนเสียชีวิตขณะยิงต่อสู้กับกลุ่มกบฏเมื่อวันพุธ (11) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 14 รายจากเหตุการณ์คราวนี้ ซึ่งประกอบด้วยพลเรือน 3 คน, ตำรวจ 1 คน, ทหาร 2 คน และกบฏ 8 คน นอกจากนี้ยังจับกุมสมาชิก MNLF ได้ 2 คนในวันพุธ
มาเรีย อิสซาเบลล์ คลิมาโก นายกเทศมนตรีหญิงของซัมบวงกาเผยว่า กลุ่มกบฏเรียกร้องให้สหประชาชาติเป็นตัวแทนไกล่เกลี่ย และปฏิเสธที่จะเจรจากับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
คลิมาโกเสริมว่า เจ้าหน้าที่กำลังพยายามฟื้นบริการสาธารณะที่สำคัญในพื้นที่ที่เหลือของเมือง พร้อมเรียกร้องให้ห้างร้านเปิดดำเนินการตามปกติ และให้แพทย์กลับไปรักษาคนไข้ รวมทั้งขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และเรียกร้องให้กลุ่มกบฏปล่อยตัวประกัน โดยเฉพาะคนชรา ผู้ป่วย เด็ก และผู้พิการ