รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สหรัฐอเมริกาออกโรงเตือนรัฐบาลอัฟกานิสถานในวันจันทร์ (27) ถึงการเดินหน้าแผนปล่อยตัวเหล่านักโทษซึ่งมีพวกสมาชิกกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงรวมอยู่ด้วย โดยรัฐบาลวอชิงตันย้ำ “บุคคลอันตราย” เหล่านี้สมควรถูกดำเนินคดี มากกว่าที่จะได้รับอิสรภาพ ถือเป็นความขัดแย้งล่าสุดที่กระทบต่อความสัมพันธ์อันง่อนแง่นระหว่างวอชิงตัน-คาบูล
พ.อ.สตีฟ วอร์เร็น โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เผยว่า รัฐบาลอัฟกานิสถานกำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ตัดสินใจเดินหน้าปล่อยตัวนักโทษจำนวน 37 คนซึ่งในจำนวนนี้มีสมาชิกกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุวางระเบิดและโจมตีทหารอัฟกันและกองกำลังนานาชาติรวมอยู่ด้วย
“พวกเขาคือคนเลว แต่ละคนล้วนแต่มือเปื้อนเลือด เลือดของทหารอเมริกัน ชาติพันธมิตร และเจ้าหน้าที่อัฟกันต่างเปรอะเปื้อนมือของพวกเขา” โฆษกเพนตากอนกล่าว พร้อมเผยว่าในความเป็นจริงแล้วมีหลักฐานมากมายที่จะดำเนินคดีกับนักโทษเหล่านี้เพื่อให้พวกเขาชดใช้ในสิ่งที่กระทำลงไป
จุดยืนที่แตกต่างกันในเรื่องการปล่อยตัวนักโทษครั้งนี้ กลายเป็น “ความร้าวฉานเรื่องใหม่” ที่ซ้ำเติมความสัมพันธ์อันระส่ำระสายระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และอัฟกานิสถาน ต่อจากการที่รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา กดดันทุกวิถีทางให้ประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซแห่งอัฟกานิสถานยอมลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคง เพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯ สามารถคงกำลังทหารของตนไว้ในแผ่นดินอัฟกันได้ต่อไป หลังเส้นตายการถอนทหารในสิ้นปี 2014 นี้ แม้ผู้นำอัฟกานิสถานจะแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ต้องการลงนามในข้อตกลงดังกล่าว และต้องการให้ทหารอเมริกันออกจากแผ่นดินของตนให้หมดสิ้นหากไม่สามารถฟื้นการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มตอลิบาน
ด้านโฆษกของคาร์ไซออกมาประณามท่าทีล่าสุดของทางเพนตากอน โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ เป็นการล่วงละเมิดอธิปไตยของอัฟกานิสถานอย่างชัดแจ้ง พร้อมย้ำว่าการตัดสินใจปล่อยตัวนักโทษจาก “เรือนจำบากรัม” เป็นไปตามอำนาจที่ชอบธรรมของกระบวนการยุติธรรมอัฟกัน
ก่อนหน้านี้ อันเดอร์ส ฟอกห์ รัสมุสเซน เลขาธิการใหญ่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งเป็นชาวเดนมาร์ก ได้ออกมายอมรับเช่นกันว่า รู้สึกกังวลใจต่อการตัดสินใจของรัฐบาลคาบูล ในการปล่อยตัวนักโทษที่มีสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงรวมอยู่ด้วย โดยเฉพาะหากการตัดสินใจดังกล่าวมีเหตุผลทางด้าน “การเมือง” แฝงอยู่เบื้องหลัง