xs
xsm
sm
md
lg

นิตยสารไทม์ตั้งคำถาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ้างนักวิเคราะห์ชี้ “ปู” กำลังสูญเสียความชอบธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ไทม์ - สื่อต่างประเทศตีแผ่รายงานตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาลไทย อ้างนักวิเคราะห์ชี้กำหนดออกมาหมายควบควมสถานการณ์ก่อนวันเลือกตั้ง เตือนผลลัพธ์อาจสวนทาง โดยรังแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงถึงขั้นอาจไม่มีการเลือกตั้ง โดยหากใช้กำลังสลายการชุมนุมก็จะกระตุ้นให้ทหารต้องเลือกข้าง ขณะเดียวกันก็เตือนยิ่งลักษณ์กำลังสูญเสียความชอบธรรมแห่งอำนาจ

ในรายงานเรื่อง Thai State of Emergency Throws Polls Into Fresh Doubt ของไทม์ นิตยสารทรงอิทธิพลของสหรัฐฯ ระบุว่ารัฐบาลไทยได้ประกาศบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพฯตั้งแต่วันพุธ (22) เป็นต้นปี ด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความพยายามจัดการกับการชุมนุมของผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทีปฏิบัติการชัตดาวน์เมืองหลวงมานานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

นิตยสารไทม์ระบุว่า บรรยากาศราวกับเทศกาลคาร์นิวัลในช่วงต้นปฏิบัติการชัตดาวน์กรุงเทพฯ ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม เหือดหายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความรุนแรงที่ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยนับตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว (17) มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บหลายสิบคน ในเหตุขว้างปาระเบิดเข้าใส่ผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลถึง 3 ครั้งในเวลาห่างกันไม่กี่วัน

ขณะเดียวกัน ในวันพุธ (22) ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล แกนนำคนเสื้อแดงรายหนึ่ง ก็ถูกยิงขณะนั่งอยู่นอกบ้านในจังหวัดอุดรธานี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เวลานี้อาการปลอดภัย ด้วยพยานหลายคนเห็นมือปืนใช้ปืนเอเค 47 กราดกระสุนกว่า 20 นัด ก่อนขับรถกระบะหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว นิตยสารไทม์รายงาน พร้อมระบุว่าแม้มีเหตุนองเลือด แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมไม่ได้ยี่หระต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินระยะเวลา 60 วันและประกาศเดินหน้าสู้ต่อ

รายงานของนิตยสารไทม์ ระบุว่าเกือบ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ที่ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนพยายามโค่นล้มรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยอ้างว่าเธอเป็นหุ่นเชิดของพี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร โดย ทักษิณ เป็นที่นิยมชมชอบในหมู่คนชนบททางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ถูกเกลียดชังจากเหล่าผู้จงรักภักดีต่อสถาบัน ผู้มีสิทธิออกเสียงในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทางภาคใต้ ทั้งนี้ผู้ประท้วงต่อต้านกำจัดอิทธิพลของทักษิณ โดยเชื่อว่ามันจะช่วยเปลี่ยนแปลงและยกเครื่องประเทศเสียใหม่

ไทม์ บอกว่าเหล่าผู้ชุมนุมต้องการระงับประชาธิปไตยสูงสุดราว 2 ปี โดยระหว่างนั้นก็จะมีการตั้งสภาประชาชนเข้ามาปฏิรูป ขณะที่ทางฝ่ายค้านก็คว่ำบาตรการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ หวังใช้เป็นตัวอ้างความชอบธรรมของเธอ

นิตยสารฉบับนี้อ้างความเห็นของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ศูนย์ศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยเกียวโต ระบุว่า “พระราชกำหนดฯถูกออกแบบมาเพื่อให้ดูเหมือนว่ารัฐบาลควบคมสถานการณ์ได้ แต่ผมไม่มั่นใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมีการปราบปราม ท่ามกลางความยุ่งเหยิงบนท้องถนนและตำรวจถูกเข้าใจว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนทักษิณ มันมีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่”

“ยิ่งลักษณ์กำลังทุบหม้อข้าวตนเอง หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอลอยตัวเหนือปัญหาขณะที่ความโกลาหลคลี่ออกรอบๆ ตัวเธอ” นายแอนโธนี เดวิส นักเคราะห์ของ IHS-Jane บริษัทด้านข่าวกรองกลาโหมและความมั่นคงที่มีฐานอยู่ในกรุงเทพฯ บอกกับไทม์ “นี่ไม่ใช่การโหมโรงปราบปราม แต่พวกเขาพยายามปัดเป่าความคิดที่ว่ารัฐบาลกำลังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ก่อนถึงวันเลือกตั้ง” ขณะที่นายปวินเห็นพ้องกับความคิดดังกล่าว พร้อมเตือนว่านา น.ส.ยิ่งลักษณ์จะสูญเสียธรรมแห่งอำนาจ และความพยายามเข้าสลายการชุมนุมใดๆ อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ทหารต้องเลือกข้าง

นายเดวิสให้สัมภาษณ์กับไทม์ต่อไปว่า รัฐบาลมีเครื่องมือเท่าที่จำเป็นสำหรับจัดการกับผู้ประท้วงอยู่แล้ว โดยชี้ไปที่กฎหมายความมั่นคงภายในที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน แต่ที่ผ่านมา “พื้นที่หลักๆ ของเมืองหลวงยังเกิดความวุ่นวายหรือถูกยึด ประชาชนจัดตั้งเวทีหรือทำอะไรได้ตามใจโดยไม่มีตำรวจเข้ามาขัดขวางเลย”

ทางไทม์รายงานต่อว่า แม้ยังไม่มีความเป็นไปได้ของการเผชิญหน้า แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับกระโจนหากระบอกปืนด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่นายสุนัย ผาสุข นักวิจัยอาวุโสองค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์ เตือนว่าเหมือนตีเช็คเปล่าให้แก่การล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆ

นอกจากนี้แล้ว นายสุณัยยังเตือนผ่านนิตยสารไทม์ว่าการประกาศสถานการ์ฉุกเฉินยังกัดเซาะหลักของการเลือกตั้งอย่างอิสระและยุติธรรม โดยอ้างถึงการเซ็นเซอร์สื่อมวลชน รวมถึงข้อจำกัดการชุมนุมและการแสดงออก
กำลังโหลดความคิดเห็น