xs
xsm
sm
md
lg

ครอบครัวยอมย้ายรพ. เพื่อยื้อชีวิต "วัยรุ่นผิวสี" สมองตายเพราะผ่าทอมซิล -หลังศาลและแพทย์ลงความเห็น “จาฮี-ตาย-ตายแล้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเพี - ครอบครัวของวัยรุ่นผิวสีวัย 13 ชาวโอกแลนด์ที่ได้รับการตัดสินว่าสมองตายจากการผ่าตัดทอมซิลเพื่อการรักษาโรคหยุดหายใจยามนอนหลับ (sleep apnea )ตัดสินใจที่จะย้าย “จาฮี แมคแมธ” ออกจากโรงพยาบาลเด็กในโอกแลนด์ แคลิฟอร์เนีย ไปยังสถานพยาบาลแห่งใหม่เพื่อที่เด็กสาววัย 13 ปียังคงสามารถอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยชีวิต หลังจากศาลเอลาเมดา เคาน์ตีตัดสินในวันจันทร์(23)ปฎิเสธคำขอของครอบครัวจาฮีที่ต้องการให้ทางโรงพยาบาลแห่งนี้ยังคงให้จาฮีอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ

คริสโตเฟอร์ โดแลน ทนายของครอบครัวผู้ป่วยได้เผยในวันพุธ(25)ว่า ทางครอบครัวของเด็กวัยรุ่นอายุ 13 ปีได้รับข้อเสนอที่จะช่วยย้าย จาฮี แมคแมธ ออกจากโรงพยาบาลเด็กโอกแลนด์ แคลิฟอร์เนีย ก่อนช่วงเย็นวันจันทร์(30)หลังจากศาลสหรัฐฯได้พิพากษาในวันจันทร์(23)ว่า การรักษาเพื่อช่วยชีวิตเด็กสาวผู้นี้ตามกฏหมายได้สิ้นสุดลงแล้ว

ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลเด็กโอกแลนด์ได้ลงความเห็นอย่างเป็นทางการว่า ผู้ป่วยรายนี้สมองตายหลังจากที่เธอประสบกับภาวะแทรกซ้อนหลังจากเข้ารับการผ่าตัดทอมซิลเพื่อรักษาโรคหยุดหายใจยามนอนหลับ(sleep apnea) ในวันที่ 12 ธันวาคม และมีความประสงค์ที่จะปิดเครื่องช่วยหายใจ แต่ทางครอบครัวของเด็กสาวแย้งว่า จาฮียังมีชีวิตอยู่และนำเรื่องขึ้นสู่ศาลเอลาเมดา เคาน์ตีเพื่อร้องขอให้ทางโรงพยาบาลเด็กแห่งนี้ยังคงอนุญาตให้จาฮีใช้เครื่องช่วยชีวิตต่อไป ซึ่งตามกฏหมายรัฐแคลิฟอร์เนีย คนไข้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตาย จะถือว่าคนไข้รายนั้นได้เสียชีวิตตามกฏหมายแล้ว

“ข้อเสนอได้ถูกยื่นเข้ามาและมันเป็นการแสดงถึงช่วยเหลือที่แท้จริง” โดแลนกล่าว และเสริมต่อว่า การที่คดีนี้กลายเป็นที่สนใจในระดับประเทศทำให้มีความช่วยเหลือต่างๆจำนวนหนึ่งมายังครอบครัวในการย้ายจาฮีไปยังโรงพยาบาลแห่งใหม่ พร้อมกับช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ต่อไป”

และโดแลนกล่าวต่อไปว่า ยังเร็วเกินไปที่จะเปิดเผยบุคคลผู้ที่ยื่นความช่วยเหลือและเขากล่าวเพียงว่า “เป็นคนที่ยึดมั่นกับปรัชญาการใช้ชีวิต”

นอกจากนี้โดแลนด์ยังกล่าวต่อไปว่า ทั้งครอบครัวของผู้ป่วยได้ฉลองเทศกาลคริสต์มาสข้างเตียงจาฮี

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเด็กโอกแลนด์ได้กล่าวกับครอบครัวจาฮีในวันพฤหัสบดี(19)ว่า ทางโรงพยาบาลจะนำเครื่องช่วยหายใจออก จนเป็นเหตุให้ทางครอบครัวได้ร้องขอคำสั่งจากเอลาเมดา เคาน์ตี เพื่อยับยั้งการกระทำนี้

และเมื่อเรื่องขึ้นสู่ศาลเอลาเมดา เคาน์ตี และผู้พิพากษาได้สั่งให้มีการตรวจจาก พอล เกรแฮม ฟิเชอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองจากคณะแพทย์ศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด และได้ลงความเห็นว่า “ไม่มีการรักษาทางแพทย์ใดๆจะทำให้จาฮีสามารถฟื้นกลับมาได้” ดังนั้นศาลจึงได้ตัดสินให้คำร้องของครอบครัวตกไปที่ร้องขอให้จาอียังใช้เครื่องช่วยชีวิตได้หลังจากเวลา 17.00น. ในวันจันทร์(30)

อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวผู้ป่วยยังไม่ได้ระบุว่าจะยังยื่นขออุทธรณ์ต่อไปหรือไม่

จาฮี วัย 13 ปี เกรด 8ชาวเมืองโอกแลนด์ที่ดูเหมือนปกติดีทุกอย่างก่อนการรักษาพยาบาลตามคำบอกเล่าของครอบครัวได้รับการผ่าตัดทอมซิลเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทางครอบครัวของเธอถือว่าเป็นกระบวนการผ่าตัดปกติที่ไม่ซับซ้อน และหลังจากที่เธอได้รับการผ่าตัดเสร็จและฟื้นขึ้นมา เธอได้คุยกับครอบครัวและถามหาไอศครีมแท่ง และเมื่อเวลาผ่านไปราว30 นาทีเธอเริ่มมีเลือดไหลออกทางจมูกและปาก และเริ่มสำลักเนื่องจากกลืนเลือดของตัวเองมากเกินไป ซึ่งทาง เนลลาห์ วิงค์ฟิลด์ มารดาของเธอได้แจ้งกับโรงพยาบาลให้ทราบ และทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ยื่นถ้วยให้พร้อมกับกล่าวว่า “ให้ใช้ถ้วยรองเลือดที่ไหลออกมาแล้ว ทางโรงพยาบาลจะตรวจภายหลัง” และหลังจากนั้นไม่นานเด็กสาวผู้นี้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวในที่สุด
เนลลาห์ วิงค์ฟิลด์ มารดาของจาฮีแมคแมธในขณะฟังคำพิพากษาที่ศาลเอลาเมดา เคาน์ตี

กำลังโหลดความคิดเห็น