เอเจนซีส์ - สื่อ RT ของรัสเซียรายงานว่า ยูเครนได้ห้ามชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศชั่วคราว ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางการประท้วงในกรุงเคียฟที่ยืดเยื้อกดดันให้รัฐบาลยูเครนลาออก และมีนักการเมืองคนสำคัญของโลกตะวันตกได้เดินทางเข้ามาเพื่อให้กำลังใจเหล่าผู้ประท้วง
หน่วยความมั่นคงของยูเครน หรือ SBU ได้กล่าวว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนธันวาคม 2013 ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าประเทศชั่วคราว เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงของยูเครน
ซึ่งการตัดสินใจที่จะปฏิเสธให้ชาวต่างชาติรายใดเข้าประเทศแล้วแต่กรณีไป โดยทางหน่วยไม่ได้มี “แบล็กลิสต์” มากำหนดการอนุญาตเข้าประเทศ SBU ออกแถลงการณ์ในวันพุธ (25) รายงานจาก Interfax Ukraine
แต่อย่างไรก็ตาม จากแถลงการณ์ SBU ไม่ได้กล่าวเจาะจงว่ามีผู้ใดบ้างที่ได้ถูกห้ามเข้ายูเครนชั่วคราว
นอกจากนี้ ทางสื่อท้องถิ่นยูเครนได้รายงานว่า มีชาวต่างชาติ 36 คนที่ถูกต้องสงสัยว่าจะร่วมมือกับกลุ่มต่อต้านมีจุดประสงค์เพื่อ “ทำให้สถานการณ์ความมั่นคงของประเทศยูเครนแย่ลง” นั้นอยู่ใน “แบล็กลิสต์” ของทางการยูเครน
ซึ่งการริเริ่มครั้งนี้เกิดจาก Oleg Tsaryov ส.ส. พรรครัฐบาลที่ได้เรียกร้องไปยังกระทรวงต่างประเทศยูเครนและ SBU ในการดำเนินการห้ามเข้าประเทศ
“มีการเดินทางเข้าออกบ่อยผิดปกติของนักยุทธวิธีและนักประท้วงมืออาชีพจากต่างประเทศ จนทำให้เกิดความกังวลบางอย่างขึ้น” Tsaryov กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของเขา
จากที่ผ่านมาพบว่าได้มีนักการเมืองชาติตะวันตกได้เดินทางมาเยี่ยมการประท้วงในกรุงเคียฟอย่างสม่ำเสมอ และทำให้เจ้าหน้าที่ยูเครนนั้นเดือดดาลใจ ซึ่งทางพรรครัฐบาลยูเครนและเหล่านักวิเคราะห์ถือว่า การเดินทางเข้ามาของเหล่านักการเมืองชาติตะวันตกนี้เป็นการ “แทรกแซงกิจการภายใน”
โดยพบว่า รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน กุยโด เวส เตอร์เวลล์ ที่ได้เดินทางมายังยูเครนเพื่อเข้าร่วมการประชุมองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือ OSCE ได้อุตส่าห์สละเวลาแวะเยี่ยมแคมป์กลุ่มผู้ประท้วง พร้อมกับผู้นำพรรคฝ่ายค้านยูเครน 2 คน ในต้นเดิอนธันวาคมนี้ โดยเตอร์เวลล์ได้เยี่ยมชมจัตุรัสเอกราช และจัตุรัสยุโรป ซึ่งเป็น 2 จุดใหญ่ในการปักหลักประท้วงครั้งนี้
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ สหรัฐฯ วิกตอเรีย นูแลนด์ ถูกพบว่า “กำลังแจกจ่ายให้ผู้ประท้วงชาวยูเครน” กลางกรุงเคียฟในวันที่ 11 ธันวาคม
และในวันที่ 15 เดือนนี้ วุฒิสมชิกสหรัฐฯ จอห์น แมคเคน ได้เดินทางมายังยูเครนเพื่อแสดงถึงการสนับสนุนในกลุ่มผู้ประท้วง และได้ปราศัยสั้นๆ ว่า “อนาคตของยูเครนนั้นอยู่กับยุโรป” และกล่าวตบท้ายว่า “ยูเครนจะทำให้ยุโรปดีขึ้น”
การห้ามคนต่างชาติเดินทางเข้ายูเครนครั้งนี้ทำให้เกิดกระแสไปทั่วสื่อในประเทศ ในขณะที่สถานทูตจอร์เจียประจำกรุงเคียฟได้ร้องขอให้มีคำอธิบายเพิ่มเติม
ทางด้าน Saakashvili ผู้นำ “ปฏิวัติกุหลาบ” ของจอร์เจียที่ได้เคยเดินทางเข้ามายังยูเครนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงยูเครน ได้กล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า เขาคงไม่สามารถเดินทางมายังยูเครนได้อีกหลังจากนี้ “แต่หัวใจและวิญญาณของเขาจะอยู่กับชาวยูเครนที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพ อิสรภาพ และอนาคตการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกอียูในอนาคตที่พวกเขาสมควรได้รับ”
ในวันพุธ (25) ทาง SBU ได้ปฏิเสธว่ามี “แบล็กลิสต์” หรือรู้จักในนาม “Tsaryov list.” ซึ่งทางเอกอัคราชทูตจอร์เจียประจำกรุงเคียฟได้เผยกับ Kommersant Ukraine สื่อยูเครน ว่ามีพลเมืองจอร์เจีย 3 รายได้ถูกปฏิเสธเข้าประเทศแล้ว