เอเอฟพี - ชาวแอฟริกาใต้พากันไปรวมตัวกันตามโบสถ์คริสต์ โบสถ์ยิว มัสยิด และวัดต่างๆ กันอย่างเนืองแน่นในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) เพื่อรำลึกถึง เนลสัน แมนเดลา หลังประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ กระตุ้นให้ประชาชนออกไปเฉลิมฉลองให้แก่หนึ่งชีวิตที่สูงส่งอยู่เหนือการแบ่งแยกเชื้อชาติ และศาสนา
วันอาทิตย์ (8) ซึ่งกลายเป็นวันสวดภาวนาทั่วประเทศ ถือเป็นวันเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของพิธีศพระดับชาติ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นนานหนึ่งสัปดาห์ แด่บุคคลที่ผลักดันให้แอฟริกาใต้ กลายเป็นประเทศที่เคารพในความหลากหลายทางเชื้อชาติ หลังปลดเปลื้องดินแดนนี้จากเศษเดนอันเสื่อมเสีย ของยุคแบ่งแยกสีผิว
บาทหลวงเซบาสเตียน รอสซู แห่งสังฆมณฑลโซเวโต เมืองที่ครั้งหนึ่งผู้ปกครองผิวขาวกำหนดให้มีแต่คนผิวดำอาศัยอยู่ กล่าวที่โบสถ์คาทอลิก “เรยีนา มุนดี” ในเมืองนี้ว่า แมนเดลา คือ “แสงไฟในความมืดมิด” อีกทั้งยกย่องสรรเสริญความสามารถของเขาในด้าน “ความอ่อนน้อมถ่อมตน และการรู้จักให้อภัย”
ภายในโบสถ์แห่งนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งบรรดานักเคลื่อนไหวต่อต้านลัทธิเหยียดสีผิวเคยใช้เป็นสถานที่หลบภัย ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจค้น เทียนเล่มหนึ่งจุดส่องสว่างเผยให้เห็นภาพของแมนเดลา กำลังแสดงความเคารพด้วยการชูกำปั้น
“ตอนนั้นเขาต่อสู้เพื่อพวกเรา และตอนนี้ถึงเวลาที่เขาต้องพักแล้ว” โอกลา เอ็มเบเก วัย 60 ซึ่งเกิดในเมืองโซเวโต กล่าว
คาดหมายกันว่า มนต์เสน่ห์อันยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดาของแมนเดลา จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้บรรดาผู้นำจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ผู้นำทางจิตวิญญาณของทุกศาสนา เหล่านักกีฬา ศิลปิน และคนในวงการบันเทิงที่มีชื่อเสียงมากระทบไหล่กันช่วงเวลาแห่งในพิธีศพคราวนี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และมิเชล โอบามา ภริยาของเขาประกาศแล้วว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแขกเหรื่อ จำนวน 80,000 คน ซึ่งจะมาเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยอย่างเป็นทางการที่กำหนดจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ (10) ณ สนามกีฬาโซเวโต ซึ่งเคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเวิลด์คัพ ปี 2010
วาระแห่งการรำลึกนาน 1 สัปดาห์ จะสิ้นสุดลงด้วยพิธีฝังศพแมนเดลาในวันที่ 15 ธันวาคม ที่กูนู หมู่บ้านในชนบท ที่เขาเคยอาศัยอยู่ตอนเป็นเด็กๆ
ตลอดทั้งคืนวันเสาร์ (7) ฝูงชนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ด้านนอกบ้านของเขาในนครโยฮันเนสเบิร์ก สถานที่ซึ่งประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของแอฟริกาใต้ผู้นี้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5) ด้วยวัย 95 ปี
พวกเขาพากันจุดเทียน และคล้องแขนกันเพื่อเป็นการไว้อาลัยอย่างเงียบๆ ราวกับว่าต้องการจะเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะพวกเขาไม่กลุ่มใดก็กลุ่มหนึ่งเริ่มเปล่งเสียงร้องเพลงออกมา จากนั้นทุกคนก็ร่วมกันขับขาน และเต้นรำเพื่อร่วมกันฉลองให้แก่หนึ่งชีวิตที่เปลี่ยนแปลงประเทศของพวกเขา และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่โลกทั้งใบ
“สำหรับผม วันนี้ไม่ใช่วันเศร้า แต่เป็นวันแห่งความหวังเพื่อให้เรากำหนดอนาคต” คาบิล เอ็มแกนเกม เซลส์แมนคนหนึ่งกล่าว
และนี่ก็คือความรู้สึกที่ประธานาธิบดี จาคอบ ซูมา แห่งแอฟริกาใต้ ต้องการให้เกิดขึ้นในวันสวดภาวนาวันอาทิตย์นี้ (8)
“ขณะที่กำลังไว้ทุกข์กันอยู่นี้ เราควรร้องเพลงให้สุดเสียง เต้นรำ และทำอะไรก็ตามที่เราอยากจะทำ เพื่อฉลองให้แก่หนึ่งชีวิตของนักปฏิวัติที่ยอดเยี่ยมผู้นี้” ซูมากล่าว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี ซูมา มีกำหนดเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยที่โบสถ์นิกายเมธโธดิสต์ ในย่านคนขาวแห่งหนึ่งของนครโยฮันเนสเบิร์ก ขณะที่อดีตประธานาธิบดี ธาโบ เอ็มเบกี ก็มีกำหนดจะร่วมสวดภาวนาที่โบสถ์ยิวแห่งหนึ่งในเมืองเดียวกัน
ห่างออกไปในคนละทวีป เสียงสวดภาวนาจะดังกึกก้องในกรุงลอนดอน ที่ซึ่ง จัสติน เวลบี อาร์กบิชอป แห่งมหาวิหารแคนเทอร์เบอรี ผู้นำทางจิตวิญญาณของคริสต์ศาสนิกชนผู้นับถือนิกายแองกลิกัน 80 ล้านคน จะทำหน้าที่ผู้นำในพิธีรำลึก
แม้ว่าสุขภาพของ เนลสัน แมนเดลา ทรุดหนักมานานพอสมควรแล้ว แต่ข่าวการจากไปของเขาก็ยังสร้างความตกตะลึงให้ชาวแอฟริกาใต้ ที่มีรู้สึกผูกพันกับผู้นำผิวสีคนแรกของประเทศอย่างลึกซึ้ง
ร่างของแมนเดลา จะตั้งไว้นับตั้งแต่วันพุธไปเป็นเวลา 3 วัน โดยหีบบรรจุศพของเขาจะเคลื่อนไปตามท้องถนนในกรุงพริทอเรีย ในช่วงเช้าของแต่ละวัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีโอกาสร่ำลาอดีตผู้นำอันเป็นที่รักของพวกเขาได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทั้งนี้ ในหมู่ผู้นำระดับโลกที่ตระเตรียมจะมาเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมากนั้น มีดังเช่น ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ นายกรัฐมนตรี สตีเฟน ฮาร์เปอร์ แห่งแคนาดา ประธานาธิบดี เอนริเก เปนญา เนียโต แห่งเม็กซิโก ประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ และ บัน คีมุน เลขาธิการใหญ่ แห่งองค์การสหประชาชาติ