เอเจนซี/เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ - เนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้และวีรบุรุษผู้นักต่อสู้ลัทธิเหยียดผิว จากไปอย่างสงบที่บ้านพักในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี (5) หลังล้มป่วยด้วยอาการติดเชื้อในปอดมานาน ขณะที่ประธานาธิบดีจาค็อบ ซูมา สั่งลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัย และเตรียมจัดงานศพแบบรัฐพิธีเต็มรูปแบบ
แมนเดลา ประธานาธิบดีผิวดำคนแรกของประเทศ และวีรบุรุษต่อต้านการเหยียดผิว อุทิศตนในช่วงเวลาที่พ้นโทษจำคุก 27 ปี นำพาแอฟริกาใต้ฟันฝ่าการนองเลือด และความยุ่งเหยิงเข้าสู่ยุคใหม่แห่งประชาธิปไตย “พี่น้องชาวแอฟริกาใต้ บุคคลอันเป็นที่รักของเรา เนลสัน แมนเดลา ประธานาธิบดีผู้สถาปนาประเทศประชาธิปไตยของเราได้จากไปแล้ว” ซูมา แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์
“ประชาชนของเราได้สูญเสียผู้เป็นพ่อ แม้ว่าเรารู้ดีว่าวันนี้คงมาถึงสักวัน แต่ก็ไม่มีอะไรทำให้ความรู้สึกสูญเสียของเราลดน้อยได้เลย ความเพียรพยายามแสวงหาเสรีภาพของเขาทำให้เขาเป็นที่เคารพของทั่วโลก ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความปรารถนาอย่างแรงกล้า และความมีมนุษยธรรมของเขา ทำให้เขาเป็นที่รักของทุกคน” ซูมากล่าว พร้อมระบุว่า จะมีการจัดงานศพของแมนเดลา แบบรัฐพิธีเต็มรูปแบบ และสั่งให้มีการลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัย
เจ้าของรางวัลโนเบลเพื่อสันติภาพ วัย 95 ปี ผู้นี้ได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน เมื่อวันที่ 1 กันยายน หลังจากเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนานเกือบ 3 เดือน เพื่อรักษาอาการติดเชื้อทางปอด อย่างไรก็ตาม แม้จะได้กลับบ้าน แต่แพทย์ของเขาก็บอกว่าอาการของแมนเดลา ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤต และแปรปรวนเป็นบางครั้ง ซึ่งอาจต้องกลับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอีกขึ้นอยู่กับอาการ
ทั้งนี้ เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน นางวินนีย์ มาดีกิเซลา ภรรยาเผยกับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่ารัฐบุรุษแห่งแอฟริกาใต้ ที่พักฟื้นในห้องปลอดเชื้อภายในบ้านพักส่วนตัวนั้นอาการยังคงวิกฤต และไม่สามารถพูดได้เนื่องจากต้องใส่ท่อทางปากเพื่อดูดน้ำออกจากปอด
การจากไปของแมนเดลา ไม่ใช่แค่การสูญเสียของชาวแอฟริกาใต้ แต่ยังรวมไปถึงทั่วโลก และทันทีที่ทราบข่าว เหล่าผู้นำนานาชาติก็พร้อมใจกันออกมาสรรเสริญวีรบุรุษผู้ล่วงลับรายนี้ โดยบารัค โอบามา ประธานาธิบผิวดำคนแรกของสหรัฐฯ กล่าวว่า “ด้วยความสง่างาม และเจตจำนงที่จะเสียสละอิสรภาพของตนเองเพื่อเสรีภาพของคนอื่นๆ เขาได้เปลี่ยนผ่านแอฟริกาใต้ และสร้างแรงบันดาลใจแก่เรา” โอบามา แถลงจากทำเนียบขาว
ส่วนนายโทนี แอบบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ก็ยก แมนเดลา ในฐานะบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง หลังจากเขาถึงแก่อสัญกรรมในวัย 95 ปี “เนลสัน แมนเดลา เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ของแอฟริกาใต้ และอาจอ้างได้ว่า เขาเป็นหนึ่งในบุคคลยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่แล้วด้วย” ขณะเดียวกัน ทางอังกฤษ และฝรั่งเศส ก็ออกถ้อยแถลงเชิดชูวีรบุรุษต่อต้านการเหยียดผิวแล้วเช่นกัน “แสงไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกดับลงแล้ว” เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เขียนลงบนทวิตเตอร์
อนึ่ง เนลสัน แมนเดลา เกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 1918 เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งตามกระบวนการประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง โดยดำรงตำแหน่งในช่วงปี 1994-1999
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น แมนเดลา เป็นที่รู้จักในฐานะนักเคลื่อนไหวต่อต้านการแบ่งแยกผิวสี และเป็นหัวหน้ากลุ่มติดอาวุธของพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา (เอเอ็นซี) ก่อนถูกจับกุมในปี 1962 พร้อมถูกตั้งข้อหาปลุกปั่นให้เกิดการต่อต้าน และออกนอกประเทศโดยไม่มีหนังสือเดินทาง ซึ่งท้ายที่สุดก็ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี
ทว่าหลังจากนั้น ในปี 1964 แมนเดลา ถูกตั้งข้อหาก่อวินาศกรรม และโดนตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่เขาก็ได้รับการปล่อยตัวในปี 1990 ก่อนจะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี 1993 หรือ 1 ปีก่อนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของประเทศ ทั้งนี้ ช่วงบั้นปลายชีวิตของเขาต้องประสบปัญหาโรครุมเร้า และถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา