เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดี เมาริซิโอ ฟูเนส แห่งเอลซัลวาดอร์ ร้องขอในวันอังคาร (3) ให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดของประเทศ เปิดการสอบสวนเรื่องอื้อฉาวกรณีที่เงินบริจาคจากรัฐบาลไต้หวันจำนวนกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 322 ล้านบาท) หายไปอย่างไร้ร่องรอยในสมัยอดีตผู้นำประเทศอย่างประธานาธิบดี ฟรานซิสโก โฟลเรส
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้นำเอลซัลวาดอร์ มีขึ้นหลังจากที่ทางกระทรวงการคลังของสหรัฐฯตรวจสอบพบความผิดปกติต่อเงินบริจาคก้อนดังกล่าวที่ทางการไต้หวันมอบให้กับรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ของอดีตประธานาธิบดีโฟลเรสเมื่อกว่า 10 ปีก่อน เพื่อเป็นการตอบแทนที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังคงยึดมั่นรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันต่อไป แทนการหันไปมีสัมพันธ์กับจีน
ด้านสำนักงานอัยการสูงสุดของเอลซัลวาดอร์ ซึ่งถือเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญของประเทศ ออกมายืนยันว่า ได้รับการร้องขอจากประธานาธิบดีฟูเนส ผู้นำคนปัจจุบันของประเทศให้ทำการสอบสวนเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวแล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม มีเพียงการระบุว่า อาจมีบุคคลสำคัญทางการเมืองไม่ต่ำกว่า 9 คน ที่เคยมีอำนาจในสมัยอดีตประธานาธิบดีโฟลเรส มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ รายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯพบหลักฐานว่า อดีตประธานาธิบดีโฟลเรส ได้รับเช็คมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลไต้หวัน ระหว่างปี 2003-2004 โดยทางการไต้หวันย้ำว่า ให้รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ในขณะนั้น นำเงินบริจาคจำนวนนี้ไปใช้ในการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรที่ยากจน แต่แล้วเงินบริจาคดังกล่าวกลับหายไปอย่างไร้ร่อยรอย โดยไม่มีการนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลไต้หวันที่เป็นผู้บริจาคแม้แต่ดอลลาร์เดียว
ด้านอดีตประธานาธิบดีโฟลเรส ซึ่งครองอำนาจระหว่างปี 1999-2004 ได้ออกมาเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง โดยยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ไม่ยอมชี้แจงว่าเงินบริจาคจำนวนดังกล่าวถูกนำไปใช้อย่างไร มีเพียงการตั้งข้อสังเกตว่า การสอบสวนที่กำลังจะมีขึ้นอาจเป็นเพียงความพยายามทางการเมืองเพื่อหวังผลในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
