เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ - หลายชาติในเอเชียยังคงรักษาตำแหน่งต้นๆ ในรายงานด้านการศึกษาโลกที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (24) ขณะที่เหล่านักเรียนของพวกเขาครองเป็นเลิศเหนือเด็กตะวันตก ทั้งในด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ส่วนไทยได้อันดับ 50 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทุกด้าน
ผลสำรวจนี้ปรากฏอยู่ในรายงานพีไอเอสเอหรือโครงการเพื่อการประเมินนักเรียนระหว่างประเทศทุกๆ 3 ปี ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส
โดยในผลสำรวจเด็กนักเรียนวัย 15 ปี จำนวนกว่า 510,000 คนจาก 65 ประเทศซึ่งถูกยกว่าเป็นเวิลด์คัพด้านการศึกษา พบว่าในปีนี้เป็นอีกครั้งที่เด็กนักเรียนของประเทศจีน ครองอันดับ 1 ด้านทักษะทางคณิตศาสตร์ การอ่าน และวิทยาศาสตร์ ขณะที่ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวันและเกาหลีใต้ ล้วนติด 5 อันดับแรกในความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์ ตามมาด้วยมาเก๊า ญี่ปุ่น ลิกเตนสไตน์ สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ที่เกาะอยู่ในท็อป 10
ประเทศและเขตเศรษฐกิจที่สำรวจนี้มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของโลก และรายงานผลการศึกษาที่ออกมานับว่ามีอิทธิพลอย่างสูงต่อเจ้าหน้าที่ด้านวางแผนนโยบายการศึกษา อย่างไรก็ดี โออีซีดียอมรับว่า การสำรวจนั้นเน้นที่เขตที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ผลที่ออกมาของบางประเทศจึงไม่ใช่ภาพแทนของทั้งประเทศ
ผลการสำรวจพบด้วยว่า เด็กนักเรียนในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนแผ่นดินใหญ่ครองอันดับหนึ่งในทุกด้าน และก้าวล้ำเหนือค่าเฉลี่ยของเด็กทั่วโลกอยู่ราว 3 ปี ในนั้นรวมถึงชาติร่ำรวยในโลกตะวันตกอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส
“จากเคยมีผลงานเป็นเลิศในปี 2009 เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกงและสิงคโปร์ ยังคงเดินหน้าพัฒนาความเป็นเลิศทั้ง 3 ด้าน” โซฟี เวย์สเซ็ตเตส นักวิเคราะห์ด้านการศึกษาของโออีซีดีกล่าว ส่วนผู้เชี่ยวชาญของโออีซีดี กล่าวว่า การทำคะแนนได้ดีของหลายชาติในเอเชีย เป็นผลมาจากวัฒนธรรมด้านการศึกษาที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นครูผู้สอน ผู้ปกครองหรือตัวเด็กเอง ที่ล้วนทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
รายงานยังให้ข้อสังเกตด้วยว่า ความแตกต่างด้านการศึกษาระหว่างเพศยังคงมีสูง โดยเด็กผู้หญิงจะมีทักษะด้านการอ่านสูงกว่าเด็กผู้ชาย ขณะที่เด็กผู้ชายกลับทำคะแนนด้านคณิตศาสตร์ได้ดีกว่า
ความเสมอภาคด้านการศึกษาที่หมายถึงความเท่าเทียมกันแม้จะมาจากพื้นที่ทางเศรษฐกิจสังคมที่แตกต่างกันนั้น รายงานยกย่องว่าออสเตรเลีย แคนาดา เอสโตเนีย และฟินแลนด์ คือดินแดนที่นักเรียนมีระดับความเท่าเทียมกันมากเป็นอันดับต้นๆ
ในบรรดา 65 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ ประเทศที่ทำอันดับได้แย่ที่สุด คือ เปรู คะแนนต่ำสุดในทุกด้าน เปรียบเทียบกันแล้วนักเรียนเปรูนับว่าผลการเรียนล้าหลังเด็กเซี่ยงไฮ้ถึง 6 ปี
สำหรับประเทศไทย อยู่อันดับ 50 โดยคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหมดทั้ง 3 สาขา คณิตศาสตร์เด็กไทยได้ 427 คะแนน, การอ่านได้ 441 คะแนน และวิทยาศาสตร์ 444 คะแนน
ขณะในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน นอกเหนือจากสิงคโปร์ที่ติดท็อปเท็นแล้ว เพื่อนบ้านที่เด็กนักเรียนของเขาทำผลงานได้ดีกว่าไทย ได้แก่ เวียดนาม อันดับ 17 คะแนนตามลำดับสาขา ได้แก่ 511, 508 และ 528 สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยทั้งหมด
ส่วนมาเลเซีย ได้อันดับ 52 คะแนนคณิตศาสตร์ 421 การอ่าน 398 และวิทยาศาสตร์ 420 และอินโดนีเซีย ติดอันดับ 64 รองบ๊วย คะแนนคณิตศาสตร์ 375, การอ่าน 396 และวิทยาศาสตร์ 382