เอเอฟพี – สหภาพยุโรป (อียู) อาจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านบางส่วนในเดือนธันวาคม หลังจากที่เตหะรานรับปากจะจำกัดกิจกรรมนิวเคลียร์ตามที่ชาติมหาอำนาจเรียกร้อง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสเผย วันนี้(25)
โลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศเมืองน้ำหอม เอ่ยด้วยว่า แม้อิสราเอลจะประณามข้อตกลงที่อิหร่านทำร่วมกับมหาอำนาจ P5+1 ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ, อังกฤษ, จีน, ฝรั่งเศส, รัสเซีย บวกเยอรมนี ว่าเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์” แต่เชื่อว่าผู้นำยิวจะไม่ออกคำสั่งโจมตีเตหะรานเพื่อป้องกันตนเองล่วงหน้า “เพราะคงไม่มีชาติใดเข้าใจ” การกระทำเช่นนั้นของอิสราเอล “ในเวลาเช่นนี้”
หลังการเจรจาอย่างเข้มข้นผ่านไป 4 วันเต็ม มหาอำนาจทั้ง 6 และอิหร่านก็สามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวเพื่อควบคุมกิจกรรมนิวเคลียร์ของเตหะราน โดยอิหร่านรับปากว่าจะจำกัดการเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียมให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อคลายความกังวลของตะวันตกที่เกรงว่าอิหร่านจะลักลอบพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์
รัฐมนตรี ฟาเบียส ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีวิทยุ Europe 1 ว่า บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอียูจะประชุมกัน “ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” เพื่อพิจารณาเรื่องการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกอียูทั้ง 28 ประเทศ
“การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจะเป็นไปอย่างจำกัด, เฉพาะเจาะจง และเปลี่ยนแปลงได้เสมอ” ฟาเบียส กล่าว พร้อมระบุว่าคำสั่งนี้น่าจะมีผลบังคับใช้ “ในเดือนธันวาคม”
ข้อตกลงชั่วคราวซึ่งจะมีผลบังคับเพียง 6 เดือนนับจากนี้ จะช่วยให้ผู้ตรวจสอบจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สามารถเข้าไปยังโรงงานนิวเคลียร์สำคัญๆ ในอิหร่านได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยูเรเนียมที่อิหร่านได้เพิ่มความเข้มข้นสูงจนอยู่ในระดับปานกลางที่ 20% ซึ่งเป็นขีดที่ใกล้จะสามารถนำไปทำอาวุธได้ จะถูกทำให้หมดฤทธิ์ไปภายในระยะเวลา 6 เดือน
ขณะเดียวกัน อิหร่านรับปากว่าจะไม่สะสมยูเรเนียมความเข้มข้นต่ำเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งไม่ติดตั้งเครื่องหมุนเหวี่ยงเพิ่มความเข้มข้นวัสดุนิวเคลียร์หรือสร้างเตาปฏิกรณ์อารัคเพิ่มเติมด้วย
สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ จะยอมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี, ทองคำ และโลหะมีค่าที่ส่งออกจากอิหร่าน หากว่าเตหะรานสามารถปฏิบัติได้ตามสัญญา นอกจากนี้วอชิงตันก็จะระงับข้อจำกัดทางการค้าที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ของอิหร่านด้วย