เอเจนซีส์ – อิหร่านและมหาอำนาจ 6 ประเทศบรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์เมื่อเช้าวันอาทิตย์ (24) เพื่อควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน แลกเปลี่ยนกับการผ่อนคลายการคว่ำบาตรแบบจำกัด นับเป็นนิมิตหมายอันดีในการฟื้นสัมพันธ์ระหว่างรัฐอิสลามแห่งนี้กับตะวันตก และผ่อนคลายการเผชิญหน้าที่เรื้อรังมานับสิบปี กระนั้น ยังต้องจับตาต่อไปว่า ภายในช่วง 6 เดือนข้างหน้าทั้งสองฝ่ายจะรักษาสัญญาได้จริงหรือไม่
ภายหลังการเจรจากว่า 4 วันในนครเจนีวา ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้ง 5 อันได้แก่ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน และรัสเซีย บวกกับมหาอำนาจอีกประเทศหนึ่งคือ เยอรมนี ก็ได้บรรลุข้อตกลงกับอิหร่าน ซึ่งนับเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและการเผชิญหน้าที่ยืดเยื้อมานานหลายสิบปี และลดโอกาสการเกิดสงครามในตะวันออกกลางอันสืบเนื่องจากความมุ่งมาดปรารถนาด้านนิวเคลียร์ของเตหะราน
แคทเธอรีน แอชตัน ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ที่เจรจากับอิหร่านในฐานะตัวแทนชาติมหาอำนาจสำคัญทั้ง 6 กล่าวถึงความสำเร็จนี้ว่า นำไปสู่พื้นที่และโอกาสในการหารือเพื่อบรรลุวิธีแก้ไขข้อขัดแย้งที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ส่วน จาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านแถลงว่า นี่เป็นเพียงขั้นตอนแรก และคู่เจรจาทั้งหมดจำเป็นต้องเริ่มดำเนินการเพื่อฟื้นความเชื่อมั่น
สำหรับ ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี แห่งอิหร่าน ซึ่งการที่เขาประสบชัยชนะได้รับเลือกตั้งเมื่อกลางปีที่ผ่านมากระตุ้นความหวังที่จะได้เห็นอิหร่านฟื้นสัมพันธ์กับตะวันตกนั้น ทวิตว่า ข้อตกลงประวัติศาสตร์นี้เป็นไปได้เนื่องจากการที่ชาวอิหร่านลงมติเลือกรัฐบาลสายกลาง
ที่กรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขานรับว่า ข้อตกลงนี้เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในรอบเกือบสิบปีอันจะนำไปสู่การผ่อนคลายความกังวลว่า เตหะรานจะมีระเบิดนิวเคลียร์ในที่สุด พร้อมสำทับว่า หากอิหร่านไม่ยึดมั่นตามสัญญาในช่วง 6 เดือนข้างหน้า อเมริกาจะยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการลงโทษและเพิ่มการกดดันต่อเตหะรานอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูแห่งอิสราเอล ออกมาวิจารณ์ทันทีว่า ข้อตกลงนี้ยังเปิดช่องให้อิหร่านสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศแถลงภายหลังบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้อเมริกาและพันธมิตรในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงอิสราเอล ปลอดภัยขึ้น
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจคราวนี้ เตหะรานจะจำกัดการเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียม ซึ่งเป็นส่วนที่ถูกสงสัยมากที่สุดว่าอิหร่านอาจนำไปใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน ให้อยู่ในระดับต่ำๆ เท่านั้น
นอกจากนั้น ยูเรเนียมที่ได้เพิ่มความเข้มข้นสูงจนอยู่ในระดับปานกลางที่ 20% ซึ่งเป็นขีดที่ใกล้นำจะสามารถนำไปทำอาวุธได้ ซึ่งอิหร่านเก็บเอาไว้ในคลังทั้งหมด จะถูกทำให้หมดฤทธิ์ไปภายในระยะเวลา 6 เดือน
ขณะเดียวกัน อิหร่านจะไม่จัดเก็บยูเรเนียมที่มีความเข้มข้นต่ำในปริมาณเพิ่มเติมขึ้นอีก รวมทั้งไม่ติดตั้งเครื่องหมุนเหวี่ยงเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นอีก หรือสร้างเตาปฏิกรณ์อารัคเพิ่มเติม รวมทั้งยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากยูเอ็นเข้าตรวจสอบได้มากขึ้น
ทั้งหมดนี้แลกเปลี่ยนกับการผ่อนคลายมาตรการลงโทษต่อเตหะรานคิดเป็นมูลค่าราว 7,000 ล้านดอลลาร์ และคำสัญญาจากมหาอำนาจในการไม่ออกมาตรการลงโทษเพิ่มเติมในระยะเวลา 6 เดือน หากอิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลง
ระหว่าง 6 เดือนนี้ อิหร่านและมหาอำนาจทั้ง 6 จะเจรจา “วิธีแก้ปัญหาที่ครอบคลุม” เพื่อให้นานาชาติมั่นใจว่า กิจกรรมนิวเคลียร์ของเตหะรานมีเป้าหมายเพื่อสันติอย่างแท้จริง