รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษแถลงวานนี้ (11 พ.ย.) ว่าจะมีการยกระดับมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านให้หนักขึ้นกว่าเดิมเพื่อเป็นกดดันสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องโครงการนิวเคลียร์กับบรรดาชาติมหาอำนาจได้
อย่างไรก็ตาม เฮก กล่าวเสริมว่า หากเตหะรานสามารถทำตามข้อตกลงเบื้องต้นได้ เหล่าชาติมหาอำนาจจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบางอย่างที่ประกาศใช้กับอิหร่าน แล้ว “ผ่อนปรนให้เหลือเพียงการคว่ำบาตรแบบจำกัดและได้สัดส่วน” อย่างไรก็ตาม เขายังรู้สึกว่าจะมีโอกาสทำข้อตกลงร่วมกับอิหร่านได้จริง
ทั้งนี้ เฮก ออกมากล่าวภายหลังที่ อิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจ ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออังกฤษ มีแววว่าจะสามารถตกลงกันเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานได้ในเบื้องต้น ที่นครเจนีวา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
“เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่เจ้าหน้าที่อิหร่านจะต้องเข้าใจว่า หากไม่บรรลุข้อตกลงในเรื่องเหล่านี้ ก็จะเกิดแรงกดดัน จากมาตรการคว่ำบาตรมากที่จะเพิ่มมากขึ้น และรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม” เฮก ประกาศในรัฐสภา
ขณะแสดงท่าทีเมินเฉยต่อรายงานข่าวที่ระบุว่า ฝรั่งเศสได้ขัดขวางความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลง เฮกเน้นย้ำว่า บรรดาชาติมหาอำนาจได้ผนึกกำลังกันพลังกันเผชิญหน้ากับอิหร่าน ในช่วงสิ้นสุดการประชุม และกล่าวเพิ่มเติมว่า อังกฤษต้องการทำข้อตกลงชั่วคราวกับอิหร่าน โดยถือเป็นก้าวแรกที่จะปูทางไปสู่ข้อตกลงอันสมบูรณ์ เรื่องโครงการนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้
ในช่วงเวลาที่ส่อเค้าว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับอิหร่านจะพัฒนาไปในทางบวกนี้ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเปิดเผยเมื่อก่อนหน้านี้ว่า ได้แต่งตั้งอุปทูตซึ่งไม่มีถิ่นพำนักในอิหร่าน (Non- resident charge d’affaires) เพื่อพยายามปรับปรุงสายสัมพันธ์ ภายหลังเมื่อปี 2011 เกิดเหตุบุกทุบทำลายสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านในอังกฤษ