เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – กองทัพเรือสหรัฐฯ กำลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวในกรณีการรับสินบนในรูปของ โสเภณี และเงินใต้โต๊ะ เพื่อแลกเปลี่ยนกับข้อมูลการเดินทางของกองเรือรบซึ่งเป็นความลับทางราชการ ท่ามกลางความกังวลว่าการสืบสวนที่กำลังแผ่ขยายลุกลามใหญ่โตไปเรื่อยๆ นี้จะสาวไปถึงตัวของนายทหารระดับสูงเพิ่มขึ้นอีกหลายคน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีนายทหาร 3 คนถูกจับกุม และอีก 2 คนกำลังถูกสอบสวนอย่างละเอียดในคดีคอร์รัปชัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นหนึ่งในคดีอื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายรายยอมรับว่า คดีนี้ยังไม่ได้รับการเปิดโปงอย่างถึงที่สุด และบอกด้วยว่า ยังอาจมีนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือคนอื่นๆ ที่พัวพันในแผนการทุจริตครั้งนี้ ซึ่งเป็นการให้สินบนของบริษัทแห่งหนึ่งที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับสัญญาให้บริการต่างๆ แก่เรือรบอเมริกันมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
ทางด้านพลเรือเอกจอห์น เคอร์บี โฆษกของกองทัพเรืออเมริกันชี้ว่า “เราเชื่อว่า มีนายทหารเรือคนอื่นๆ และบางทีอาจมีพลเรือนที่ทำงานในกองทัพเรือด้วย มีส่วนพัวพันกับกรณีอื้อฉาวนี้”
“เราจะปล่อยให้การสอบสวนครั้งนี้สาวไปถึงตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด” เขากล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี อีกทั้งเสริมว่า “ผมไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสืบสวนมากไปกว่านี้ได้อีก เพราะขั้นตอนยังไม่แล้วเสร็จ”
ทั้งนี้ คดีที่กำลังเป็นที่สนใจนี้ มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่สัญญาจัดหาอาหาร น้ำดื่ม เชื้อเพลิง การขนถ่ายขยะ และบริการอื่นๆ ให้แก่เรือรบอเมริกันที่ไปเยือนท่าเรือต่างๆ ในเอเชีย
ฝ่ายอัยการได้กล่าวหาว่า ฟรานซิส ลีโอนาร์ด ซีอีโอของบริษัท “เกลนน์ ดีเฟนซ์ มารีน เอเชีย” สมคบคิดในการติดสินบนนายทหารเรือ และเจ้าพนักงาน ด้วยวิธีการจัดหาโสเภณี การท่องเที่ยวอย่างหรูหรา และผลประโยชน์อื่นๆ เพื่อให้ตนได้เซ็นสัญญากับกองทัพเรือ
นักธุรกิจชาวมาเลเซียผู้นี้ ซึ่งพวกนายทหารเรือรู้จักกันดีในฉายา “ลีโอนาร์ดอ้วน” ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ชักชวนให้เหล่าผู้บังคับการเรือรบอเมริกันนำเรือไปแวะเทียบท่าตามท่าเรือต่างๆ ที่บริษัทนี้ให้บริการอยู่
นอกจากนี้ เขายังถูกกล่าวหาด้วยว่า มีสายอยู่ในหน่วยตรวจสอบภายในของกองทัพเรือ ซึ่งเขาจะจ่ายใต้โต๊ะให้คนเหล่านี้ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่า หากมีการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของเขา จะต้องแจ้งให้เขาทราบ
เจ้าหน้าที่กล่าวหายังกล่าวหาลีโอนาร์ดด้วยว่า เขาได้ฉ้อโกงกองทัพเรือ ด้วยการคิดค่าบริการเกินราคา กุตัวเลขค่าใช้จ่ายปลอมๆ ขึ้นมา ซึ่งบางครั้งพวกพันธมิตรของเขาที่อยู่ในกองทัพเรือก็มีส่วนรู้เห็นด้วย
เพื่อตอบแทนผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เขาได้รับ ลีโอนาร์ดได้จัดหาสาวเอสคอร์ต ห้องพักในโรงแรมอันหรูหรา และแม้กระทั่งตั๋วชมคอนเสิร์ต เลดี้ กาก้า ให้กับพวกนายทหารเรือที่แวะเที่ยวสิงคโปร์หรือมาเลเซียตอนที่เรือจอดพัก ทั้งนี้ตามข้อกล่าวหาของฝ่ายอัยการ
“หวานเลย ... พ่อช๊อบชอบ” เป็นข้อความในเฟซบุ๊กที่ นาวาโท โฮเซ ลุยซ์ ซันเชซ หนึ่งในนายทหารเรือที่ถูกกล่าวหาส่ง ภายหลังที่เขาได้รับแจ้งในอีเมลว่ามีผู้จัดหาโสเภณีมาให้
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า ซันเชซ ผู้ซึ่งถูกจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แอบเตือนฟรานซิสตอนที่ทางการกำลังตรวจสอบบิลค่าบริการกว่า 100,000 ดอลลาร์ ที่บริษัทของเขาเรียกเก็บกับกองทัพเรือ สำหรับการให้บริการเรือรบที่ไปเยือนท่าเรือแห่งหนึ่ง
นอกจากนั้น ซันเชซ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ยังถูกตั้งข้อสงสัยว่า ได้ส่งข้อมูลที่เป็นความลับทางราชการเกี่ยวกับการเดินทางของกองเรือรบ และแผนการไปเยือนท่าเรือที่กำหนดเอาไว้ เพื่อช่วยเหลือบริษัทของฟรานซิส
เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2011 ฟรานซิสถูกกล่าวหาว่า ขอให้ซันเชซ ช่วยให้บริษัทของเขาสามารถทำข้อตกลงขายเชื้อเพลิงให้เรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ลำหนึ่ง ซึ่งแล่นมาจอดที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในประเทศไทยได้สำเร็จ
ซันเชซส่งอีเมลกลับไปบอกว่า “ขอเลย แล้วคุณจะได้” อัยการระบุ และบอกว่าในอีเมลยังเขียนว่า “เราได้จัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วเมื่อเช้านี้”
ข้อกล่าวหาระบุด้วยว่า กองทัพเรือสหรัฐฯ ซื้อเชื้อเพลิงจากบริษัท เกลนน์ ดีเฟนซ์ มารีน เป็นมูลค่าหนึ่งล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นสองเท่าของราคาในท้องตลาด ณ ตอนนั้น
สำหรับหน่วยสอบสวนอาชญากรรมกองทัพเรือ (เอ็นซีไอเอส) ได้เฝ้าจับตาดูพฤติกรรมที่น่าสงสัยของ ฟรานซิสมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถหาหลักฐานมาจับให้มั่นคั้นให้ตายได้
อย่างไรก็ตาม ทางการสหรัฐฯ เผยว่า ในที่สุดเขาก็ตกหลุมพรางที่สหรัฐฯ วางไว้ และถูกจับกุมได้ที่เทศมณฑลซานดิเอโก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และในคดีนี้ อัยการได้ทำในสิ่งที่ไม่ค่อยพบบ่อยนัก นั่นก็คือการจับกุมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิเศษของเอ็นซีไอเอส มีหน้าที่ตรวจสอบการพฤติกรรมทุจริตในกองทัพ
ทั้งนี้ หนึ่งในในบรรดาทหารเรือที่ถูกจับกุมนั้นยังรวมถึง นาวาโท ไมเคิล วัณณะ เขม มิซีวิคซ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเด็กเขมรที่ลี้ภัยระบอบปกครองเขมรแดงของกัมพูชา แล้วมีหญิงอเมริกันรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม
ตอนที่ มิซีวิคซ์ นำเรือรบอเมริกันที่เขาเป็นผู้บังคับการเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนในเดือนธันวาคม ปี 2010 นั้นเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนจนกลายเป็นข่าวไปทั่ว
อย่างไรก็ดี บรรดาเจ้าหน้าที่สืบสวนกล่าวหาว่า ในขณะที่นายทหารผู้นี้กำลังตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่นั้น เขากำลังถูกฟรานซิสขอให้ช่วยเหลือบริษัทของเขาอยู่
คดีนั้นปรากฏขึ้น แม้ว่าเหล่าผู้นำของกองทัพเรือสหรัฐฯ จะเคยออกมาให้คำมั่นว่า จะกวาดล้างการรับสินบน และการคอร์รัปชันภายหลังที่เมื่อปี 2011 มีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการมอบเงินโต้โต๊ะมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในคดีนี้ มีการกล่าวหาว่า พลเรือนคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกจ้างของกองทัพเรือเซ็นรับงานจากผู้รับเหมารายหนึ่ง ซึ่งต่อมาผู้รับเหมารายนี้ก็ได้ส่งเงินที่ได้รับจากองทัพกลับไปให้ชายคนนี้ ทำให้ทางการสหรัฐฯ ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาป้องกันเหตุฉ้อฉลในอนาคต