xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ จับอดีต ผบ.เรือพิฆาตเชื้อเขมร เผยข้อมูลกองทัพแลกตั๋วคอนเสิร์ตเลดี้กาก้าในไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR ><FONT color=#000033>น.ท.ไมเคิล มิซีวิคซ์ ผู้บังคับการเรือยูเอสเอส มัสติน (USS Mustin - DDG 89) เรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์เบิร์กติดจรวดนำวิถี สวมกอดกับสมาชิกในครอบครัว หลังเรือรบลำดังกล่าวเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ กัมพูชา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2553 นับเป็นการเยือนบ้านเกิดครั้งแรกของมิซีวิตซ์ นับตั้งแต่อพยพไปอยู่ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2516 . -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 3rd Class Devon Dow. </b>

รอยเตอร์ - นาวาโทเชื้อสายเขมรในกองทัพเรือสหรัฐฯ ถูกจับในข้อหาเผยข้อมูลลับทางทหารต่อบริษัทคู่สัญญาของเพนตากอน ในสิงคโปร์ โดยได้สินบนเป็นทริปท่องเที่ยว, หญิงขายบริการ และตั๋วคอนเสิร์ต “เลดี้ กาก้า” ในเมืองไทย อัยการสหรัฐฯ เผยวานนี้ (18)

ศาลแขวงเมืองซานดิเอโก แถลงวานนี้ (18) ว่า น.ท.ไมเคิล วัณณะ แขม มิซีวิคซ์ (Michael Vannak Khem Misiewicz) ผู้บังคับการเรือพิฆาตลำหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาที่เกิดในยุคสงครามเวียดนาม ถูกจับฐานรับสินบนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับ เลนเนิร์ด เกล็นน์ ฟรานซิส ผู้รับเหมาด้านกลาโหม กับ จอห์น แบร์ทรองด์ เบลิโว ที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษประจำสำนักงานสืบสวนอาชญากรรมของกองทัพเรือ (NCIS)

มิซีวิคซ์ วัย 46 ปี ได้เผยกำหนดการเคลื่อนย้ายเรือรบต่างๆ ให้ฟรานซิสทราบ และยังจัดแจงให้เรือของกองทัพสหรัฐฯ เข้าไปจอดยังท่าเรือที่บริษัทเกล็นน์เดวิสมารีน เอเชีย จำกัด ของฟรานซิส มีสัมปทานเรือลางจูง, รักษาความปลอดภัย, เติมเชื้อเพลิง และกำจัดขยะอยู่ ซึ่งสัญญาเหล่านี้มีมูลค่านับร้อยๆ ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ฟรานซิส ตกรางวัลให้แก่มีซีวิคซ์อย่างงาม ไม่ว่าจะเป็นแพกเกจเที่ยวฟรี, ความบันเทิง, ห้องพักในโรงแรมหรู หรือแม้กระทั่งโสเภณี

เอกสารคำฟ้องระบุด้วยว่า ฟรานซิส มอบตั๋วคอนเสิร์ต “เลดี้ กาก้า” ที่มาเปิดการแสดงในเมืองไทยเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ปีที่แล้ว ให้แก่มิซีวิคซ์ ถึง 5 ใบ และชายทั้งสองก็มีความสนิทสนมกันมากโดยมิซีวิคซ์ เรียกอีกฝ่ายว่า “พี่ใหญ่” (Big Brother) ส่วน ฟรานซิส ก็เรียกนาวาโทชาวเขมรว่า “น้องเล็ก” (Little Brother)

ช่วงที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้น มิซีวิคซ์ มีตำแหน่งเป็นรองเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการกองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ (U.S. Seventh Fleet) ซึ่งควบคุมปฏิบัติการทางทะเลอาณาเขต 48 ล้านตารางไมล์ ตั้งแต่ญี่ปุ่น ไปจดเกาะปะการัง ดิเอโก การ์เซีย ในมหาสมุทรอินเดีย และจากเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซีย ไปจนถึงออสเตรเลีย
.
<br><FONT color=#000033>มิซีวิคซ์ ผู้บังคับการเรือยูเอสเอส มัสติน (ซ้าย) มอบหมวกที่ระลึกให้กับ พล.ร.ต.อู้ก สีหา ผู้บัญชาการฐานทัพเรือเรียม หลังเรือยูเอสเอส มัสติน เข้าเทียบท่าที่ฐานทัพเรือกัมพูชา ในระหว่างการเยือน เพื่อฝึกซ้อมร่วมกับกองกำลังทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2553  . -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 3rd Class Devon Dow.</font></b>
<bR ><FONT color=#000033>ภาพแฟ้มปี 2555 เรือ ยูเอสเอส มัสติน เรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์เบิร์กติดจรวดนำวิถี เคลื่อนตัวเข้าในตำแหน่งก่อนยิงขีปนาวุธไปยังอากาศยานไร้คนขับในการฝึกซ้อมในมหาสมุทรแปซิฟิก. -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 3rd Class Paul Kelly. </b>
.
มิซีวิคซ์ ยังเป็นอดีตผู้บังคับการเรือ ยูเอสเอส มัสติน (USS Mustin - DDG 86) เรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์เบิร์ก ติดจรวดนำวิถี ซึ่งเคยแวะเยือนกัมพูชาเมื่อปลายปี 2010

ด้าน เบลิโว วัย 44 ปี ซึ่งเผยรายงานการตรวจสอบของ NCIS ให้บริษัทของ ฟรานซิส ทราบ ก็ได้รับสินน้ำใจเป็นทริปท่องเที่ยว, ความบันเทิง, หญิงโสเภณี และของกำนัลอื่นๆ เช่นกัน

ฟรานซิส ถูกจับที่ซานดิเอโก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16) ส่วน มิซีวิคซ์ กับ เบลิโว ถูกควบคุมตัวอยู่ที่รัฐโคโลราโด และเวอร์จิเนีย หากพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดจริง บุคคลทั้ง 3 อาจมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี

ตามข้อมูลที่กองทัพเรือสหรัฐฯ เผยแพร่เมื่อปี 2010 น.ท.มิซีวิคซ์ เติบโตในกรุงพนมเปญในช่วงที่เกิดสงครามเวียดนาม และมีสตรีชาวอเมริกันรับเป็นบุตรบุญธรรม ก่อนที่เขมรแดงจะขึ้นครองอำนาจในปี 1975

มิซีวิคซ์ กลับไปเยือนแผ่นดินเกิดเป็นครั้งแรกในรอบ 37 ปี พร้อมกับเรือพิฆาตมัสติน ที่ไปจอดเทียบท่ายังเมืองสีหนุวิลล์ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2010.
กำลังโหลดความคิดเห็น