เอเอฟพี/รอยเตอร์-เป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี หรือตั้งแต่ปี 1994 ที่ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ถูกระบุว่าจะสามารถคว้าเก้าอี้นายกเทศมนตรีของมหานครนิวยอร์ก โดยรายงานข่าวล่าสุดจากสื่อหลายสำนักคาดว่า บิล เด แบลซิโอ ผู้สมัครวัย 52 ปี จากฝั่งเดโมแครตจะชนะแบบขาดลอย และได้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของมหานครแห่งนี้เป็นคนที่ 109 ต่อจาก “ไมเคิล บลูมเบิร์ก” พ่อเมืองคนดังที่เตรียมอำลาตำแหน่งในสิ้นปีนี้
รายงานข่าวระบุว่า บรรดาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวนิวยอร์กต่างออกไปใช้สิทธิ์ของตนในวันอังคาร (5) เพื่อลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรีคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ต่อจากนายไมเคิล บลูมเบิร์ก พ่อเมืองวัย 71 ปีที่อยู่ในตำแหน่งนี้มาแล้วถึง 3 สมัยตั้งแต่ปี 2001
เด แบลซิโอ ตัวแทนพรรคเดโมแครต ซึ่งมีภรรยาเป็นอดีตเลสเบียน และมีจุดยืนทางการเมืองเป็นพวกฝ่ายซ้ายหัวก้าวหน้าได้ให้สัญญาต่อชาวนิวยอร์กว่า จะขึ้นภาษีเพื่ออุดหนุนการศึกษาก่อนวัย และจะทำโครงการพิเศษหลังเลิกเรียน เพื่อการสอนเพิ่มเติมและสร้างกิจกรรมสันทนาการสำหรับเด็กเกรด 7-9 รวมถึงการสร้างความปลอดภัยและลดอาชญากรรม
นอกจากนี้เขายังให้คำมั่นที่จะปฎิรูปนโยบาย “หยุดเพื่อตรวจค้น”ที่อื้อฉาวที่ถูกมองว่าเป็นนโยบายกีดกันด้านสีผิว ซึ่งนโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากบลูมเบิร์ก เจ้าของตำแหน่งคนปัจจุบัน รวมไปถึงนโยบายที่เด แบลซิโอ จะสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับคนรายได้น้อยอีก 200,000 ยูนิต
ผลสำรวจความคิดเห็นจากหลายสำนักระบุว่า เด แบลซิโอนั้นอาจได้คะแนนเสียงราว 65% ในขณะที่คู่แข่งสำคัญจากพรรคริพับลิกันอย่าง โจ โลตา วัย 59 ปีที่เคยเป็นรองนายกเทศมนตรีนิวยอร์กในสมัยของอดีตนายกเทศมนตรีฯ รูดอล์ฟ จูลิอานีจากพรรคเดียวกัน จะได้คะแนนเสียงเพียง 24% เท่านั้น ขณะเดียวกันยังพบว่า เด แบลซิโอ ได้รับการสนับสนุนจากคนที่มีชื่อเสียงในสังคม รวมถึงดาราฮอลลีวูด เช่น ซูซาน ซาแรนดอน และซาราห์ เจสซิกา พาร์คเกอร์
ทั้งนี้ มหานครนิวยอร์กนั้นถือเป็นเมืองใหญ่ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยมีประชากรอเมริกันผิวขาวราว 33.33% อเมริกันผิวสีราว 25.5 % อเมริกันเชื้อสายลาตินอเมริกา 28.6 % และอเมริกันเชื้อสายเอเชียราว 12.7 % และมีจำนวนครอบครัวชาวอเมริกันที่มีสมาชิก 4 คน มีรายได้ต่อปีแค่ 30,944 ดอลลาร์อยู่ถึง 21%