เอเจนซีส์ - บลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทกิจการโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศส “อัลคาเทล-ลูเซน” ประกาศในวันอังคาร (8) ถึงแผนการปรับลดพนักงานของบริษัททั่วโลกราว 10,000 คน หรือราว 14% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัทก่อนสิ้นปี 2015 เพื่อจะพยุงฐานะบริษัทให้สามารถทำกำไรได้ หลังจากการขาดทุนตั้งแต่มีควบรวมกับลูเซนในปี 2006 และในขณะนี้ทางบริษัทอยู่ในระหว่างการคุยกับ Qualcomm Inc.เพื่อเข้าถือหุ้นบริษัท ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Qualcomm Inc.นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากบลูมเบิร์กยังอ้างว่า NSN บริษัท โนเกียเน็ตเวิร์ก สนใจจะซื้อแผนกเครือข่ายไร้สายของอัลคาเทล-ลูเซน เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายจากอีริคสันและหัวเว่ย
บลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติฝรั่งเศส “อัลคาเทล-ลูเซน” ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ (8) ถึงแผนการปลดพนักงานราว 10,000 คนจากทั่วโลก โดยเฉพาะที่ฝรั่งเศส มีการปิดสาขาในเมืองในเมืองตูลูส และเมืองแรนส์ ที่รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานราว 900 คน จากทั้งหมดที่มีราว 9,500 คน และที่อิตาลีมีการปลดคนงานออกราว 586 คน จากที่มีทั้งหมด 2,000 คน และในขณะเดียวกันทาง อัลคาเทล-ลูเซน จะเพิ่มการจ้างงานอีกราว 5,000 ตำแหน่งในเฉพาะสาขาที่ต้องการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำธุรกิจของบริษัท
โดยทางบริษัทกล่าวว่า แผนการครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อที่ต้องการจะลดต้นทุนการผลิตให้ได้อย่างน้อย 1 พันล้านยูโร ก่อนสิ้นปี 2015 ซึ่งสินค้าและการบริการของ อัลคาเทล-ลูเซน นั้นเป็นเทคโนโลยี แอปพลิเคชัน และการบริการด้านเครือข่าย การสื่อสารพื้นฐาน เครือข่ายไร้สาย เครือข่ายบรอดแบนด์ ไอพีและออปติก โดยบริษัทได้พยายามอย่างมากที่จะพยุงฐานะให้สามารถทำกำไรได้หลังการควบรวมกิจการเข้าระหว่างบริษัท อัลคาเทล และบริษัท ลูเซน เทคโนโลยี สัญชาติอเมริกัน
ซึ่งจากในปีที่ผ่านมา ทางบริษัทขาดทุนไปแล้ว 1.37 พันล้านยูโร รวมถึงอีก 885 ล้านยูโร ในครึ่งปีแรกของ 2013 โดยแผนการลดพนักงานนี้จะปลดพนักงานทั้งสิ้นราว 4,100 คน ในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมไปถึง 3,800 คน ในเอเชีย และ 2,100 คน ในอเมริกา ซึ่ง 1 ใน 4 ของพนักงาน อัลคาเทล-ลูเซน ที่อยู่ในอเมริกานั้นทำงานที่เบลแลบส์อันโด่งดัง “นี่เป็นสิ่งที่ทาง อัลคาเทล-ลูเซน จำเป็นต้องทำ” เอริค โบเดต์ นักวิเคราะห์แห่ง Natixis Securities จากปารีสกล่าว เขาเป็นคนแนะนำให้ช้อนซื้อหุ้นบริษัท อัลคาเทล-ลูเซน ที่จะออกขายราว 1 พันล้านยูโร ก่อนปี 2015 ซึ่งในขณะนี้ทางบริษัทอยู่ในระหว่างการคุยกับ Qualcomm Inc.เพื่อเข้าถือหุ้นบริษัท ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Qualcomm Inc.ได้ตกลงที่จะซื้อหุ้นบางส่วนของ อัลคาเทล-ลูเซน ไว้แล้ว
โดยก่อนหน้านั้นในเดือนพฤศจิกายนปี 2012 ที่ผ่านมา ทางบลูมเบิร์กได้รายงานข่าวว่า ทาง อัลคาเทล-ลูเซน มีแผนที่จะปลดพนักงานออกราว 10,000 ตำแหน่ง เพื่อต้องการที่จะไล่ตามคู่แข่งให้ทัน และเพื่อหยุดการขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องหลังจากการควบรวมกิจการมากว่า 7 ปี และทำให้ทางบริษัทสูญเงินไปกว่า 7.37 พันล้านยูโร ที่เกิดจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูง และยอดขายที่ตกอย่างฮวบฮาบลงอย่างต่อเนื่องในยุโรป
และจากการที่ทางบริษัทต้องลดจำนวนพนักงานลงซึ่งเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในบริษัท โนเกียเน็ตเวิร์ก สัญชาติฟินแลนด์ ทาง NSN ได้ปลดพนักงานออกราว 17,000 ตำแหน่ง หรือราว 23% จากจำนวนพนักงานทั้งหมดในปลายปี 2011 และจนกระทั่งถึงขณะนี้ NSN ได้ปรับลดพนักงานบริษัทไปแล้วกว่า 20,200 คน ในช่วง 2 ปี และเหลือจำนวนพนักงานแค่ 50,500 คน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และบริษัท Cisco System Inc.(CSCO) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ใหญ่ที่สุดในโลกได้เผยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า ได้มีแผนการเลิกจ้างพนักงานราว 5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
และเมื่อดูจากรายงานประจำปีของยอดตัวเลขรายได้ในปี 2012 อ้างจากการวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก จะพบว่า อัลคาเทล-ลูเซน นั้น มีพนักงานขายทำเงินให้บริษัทต่อคนอยู่ที่ 257,000 ดอลลาร์ ด้าน NSN มีรายได้อยู่ที่ 313,500 ดอลลาร์ต่อคน และ อีริคสัน เอบี ( ERICB) อยู่ที่ 305,000 ดอลลาร์ต่อคน
ซึ่งบลูมเบิร์กได้พบว่า ในเดือนที่ผ่านมามีข่าววงในเผยว่า NSN บริษัท โนเกียเน็ตเวิร์ก ที่ในขณะนี้ได้ต้องการตั้งเป้าที่จะเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านโทรคมนาคมเครือข่ายไร้สายหลังจากที่ทางบริษัทได้ขายแผนกส่วนการผลิตโทรศัพท์มือถือออกไปนั้น มีความสนใจจะซื้อแผนกเครือข่ายไร้สายของอัลคาเทล-ลูเซน เพราะหากรวมทั้งอัลคาเทล และโนเกีย เข้าด้วยกัน จะมีศักยภาพที่จะชิงส่วนแบ่งการตลาดจากบริษัท อีริคสันที่มีสัดส่วนการตลาดมากที่สุดในอุปกรณ์เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และรวมไปถึงจากบริษัท หัวเว่ย โดย อัลคาเทล-ลูเซน นั้นได้ถือสัญญาบริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือ 2 เจ้ายักษ์ใหญ่ในอเมริกาคือ Verizon และAT&T อยู่ในขณะนี้