xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยัน “นิวยอร์ก” ต้องพับกม.ห้ามขายน้ำอัดลม “แก้วยักษ์” นายกฯบลูมเบิร์กขอ “สู้ต่อ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ความพยายามที่จะห้ามจำหน่ายน้ำอัดลมแก้วยักษ์ของนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กเนื่องจากเหตุผลทางสาธารณสุขต้องล้มเหลวลงอีกเมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินไม่ให้ออกกฎหมายฉบับดังกล่าว

นายกเทศมนตรีไมเคิล บลูมเบิร์ก ผู้ซึ่งสนับสนุนมาตรการนี้ โดยถือเป็นแผนหนึ่งในการต่อสู้กับโรคอ้วนและโรคเบาหวานที่ชาวเมืองกำลังป่วยกันเป็นจำนวนมาก ออกมาประกาศทันทีว่าเขาจะยังสู้ต่อในศาลสูง

คณะกรรมการสุขภาพของนครนิวยอร์กมีมติเมื่อเดือนกันยายน ปี 2012 ห้ามไม่ให้ใช้แก้วไซส์บิ๊กเกิน 16 ออนซ์ (470 มล.) จำหน่ายน้ำอัดลมในร้านอาหาร และตามมุมอื่นๆ ในเมือง ซึ่งรวมถึงสนามกีฬา และงานแสดงดนตรี

ทว่าการริเริ่มดังกล่าวนี้ซึ่งดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก และจะกลายเป็นข้อบัญญัติเช่นนี้ฉบับแรกที่ประกาศใช้ในเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ถูกศาลชั้นต้นขัดขวางโดยให้เหตุผลว่าเป็นข้อบัญญัติที่ “เผด็จการและใช้อำนาจตามอำเภอใจ”

เมื่อวานนี้ (30) แผนกอุทธรณ์ของศาลสูงรัฐนิวยอร์กได้พิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้น

บลูมเบิร์กหยิบยกประเด็นปัญหาเรื่องสุขภาพขึ้นเป็นนโยบายสำคัญของเขาในช่วง 12 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ซึ่งจะสิ้นสุดวาระลงในเดือนพฤศจิกายนนี้

เขาออกกฎห้ามสูบบุหรี่ในร้านอาหาร สถานเริงรมย์ และสถานที่สาธารณะอื่นๆ อีกทั้งสนับสนุนการรณรงค์จนประสบความสำเร็จให้ผู้ผลิตอาหารและร้านอาหารเลิกใช้ไขมันทรานส์และลดปริมาณเกลือในอาหาร

เขาได้แสดงความคิดเห็นต่อคำตัดสินของศาลเมื่อวานนี้ (30) ว่าเป็นความล้มเหลวเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่บรรดาตัวแทนของอุตสาหกรรมน้ำอัดลมมั่นใจว่า การยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ของรัฐซึ่งถือเป็นการอุทธรณ์ในขั้นสุดท้ายก็จะล้มเหลวเช่นเดียวกัน

คริสโตเฟอร์ กินเดิลสเปอร์เกอร์ โฆษกของสมาคมเครื่องดื่มแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (ABA) ระบุว่าศาลมีคำประกาศอย่างเป็นเอกฉันท์แล้วว่า การห้ามจำหน่ายน้ำอัดลมในขนาดแก้วโตเป็นการที่ฝ่ายบริหารพยายามใช้อำนาจเกินขอบเขต

“หลังจากที่ศาลตัดสินเช่นนี้แล้ว เราก็ยังคงคาดหวังที่จะได้ร่วมมือกับบรรดาผู้นำของเมืองเพื่อหาทางออกที่ส่งผลดีและมีผลอย่างยั่งยืนต่อประชาชนในนครนิวยอร์ก”

ทางด้านบลูมเบิร์กแถลงว่าผู้พิพากษาเพิกเฉยต่อความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขวิกฤตสุขภาพอย่างเร่งด่วน

“นับตั้งแต่กฎหมายจำกัดปริมาณในการขายน้ำอัดลมในนครนิวยอร์กถูกระงับไม่ให้ประกาศใช้ เมื่อเดือนมีนาคม 2012 มีชาวนิวยอร์กกว่า 2,000 คนต้องเสียชีวิตเนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน” เขาแถลง

“นอกจากนี้ ในช่วงเวลานั้น สมาคมแพทย์อเมริกัน (American Medical Association) ได้วินิจฉัยให้ความอ้วนเป็นโรคชนิดหนึ่ง และวารสาร “นิวอิงแลนด์เจอร์นัลเมดิซีน” (New England Journal Medicine) ก็เผยแพร่งานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงและไม่มีทางรักษาของโรคอ้วนและโรคเบาหวานประเภท 2 ซึ่งทั้งสองโรคนี้มีความเชื่อมโยงกับการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

“คำตัดสินในวันนี้เป็นความล้มเหลวเพียงชั่วคราวเท่านั้น และเราได้วางแผนว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินครั้งนี้เนื่องจากเราต้องการสู้กับโรคอ้วนที่กำลังระบาดต่อไป”

ที่ผ่านมาข้อเสนอของบลูมเบิร์กได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในนิวยอร์ก

ทางด้านฝ่ายที่คัดค้านออกมาโต้แย้งว่าการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็นการละเมิดเสรีภาพของประชาชน ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนชี้ให้เห็นถึงความเกี่ยวโยงกันอย่างชัดแจ้งระหว่างการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในปริมาณมาก กับโรคอ้วนและโรคเบาหวานประเภท 2 หรือโรคเบาหวานในผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ ซึ่งชาวนิวยอร์กทุกๆ 1 ใน 8 คนป่วยเป็นขณะนี้

นายกเทศมนตรีนิวยอร์กผู้นี้ ยังย้ำเตือนแก่ผู้ลงคะแนนเสียงอยู่เสมอว่า ในช่วงคนรุ่นที่แล้วนี้เองให้ขนาดมาตรฐานของแก้วน้ำอัดลมอย่างเป็ปซี่และโค้กที่ให้บริการกันคือ 6 ออนซ์เท่านั้น และเมื่อครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนให้แก้วขนาดมาตรฐานเป็น 12 ออนซ์ ประชาชนต่างก็คิดว่าใหญ่มหึมามาก

นอกจากนั้น มีนักวิจารณ์ที่กล่าวว่านโยบายของบลูมเบิร์กไม่คงเส้นคงวา เนื่องจากไม่ครอบคลุมถึงเครื่องดื่มประเภทนมหรือน้ำผลไม้ ซึ่งบางชนิดมีปริมาณน้ำตาลมากเท่าๆ กับน้ำอัดลมหรือเบียร์ และบ่อยครั้งมีแคลอรีสูงพอๆ กัน

นายกเทศมนตรีผู้นี้ยอมรับว่าเพียงแค่การจำกัดปริมาณในการจำหน่ายน้ำอัดลมยังไม่สามารถป้องกันไม่ให้ชาวนิวยอร์กบริโภคเครื่องดื่มเหล่านี้ในปริมาณมากเกินไป แต่เขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาสุขภาพกันมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น