xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติทั่วโลก-วอลล์สตรีทต่างผวา นักข่าวบลูมเบิร์กนิวส์รู้ข้อมูลอ่อนไหวของลูกค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - บรรณาธิการใหญ่ของ “บลูมเบิร์ก นิวส์” ออกมายอมรับ “ความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย” จากกรณีที่นักข่าวของบริษัทบริการข้อมูลและข่าวสารทางการเงินยักษ์ใหญ่แห่งนี้สามารถเข้าถึงข้อมูลอันอ่อนไหวของลูกค้าได้เป็นบางส่วน แต่ก็ยืนยันว่าข้อมูลสำคัญๆ ของลูกค้าได้รับการปกป้องอย่างดีมาโดยตลอด กระนั้นแบงก์ชาติจากทั่วโลกตลอดจนถึงสถาบันการเงินระดับแนวหน้า ต่างกังวลว่าถูกบริษัทแห่งนี้ล้วงข้อมูลลับ

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือแบงก์ชาติของแดนอาทิตย์อุทัย เป็นรายล่าสุดที่ออกมาระบุในวันอังคาร (14) ว่า ได้ติดต่อบลูมเบิร์กเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วและหวังว่าบริษัทแห่งนี้จะออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้า ขณะที่ทบวงการเงินฮ่องกง ซึ่งเป็นองค์กรทำหน้าที่เสมือนเป็นแบงก์ชาติในทางพฤตินัยของเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ ก็บอกว่า กำลังพิจารณาเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แบงก์ชาติของบราซิล และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่างได้ออกมาแถลงว่ากำลังตรวจสอบเรื่องนี้ ขณะที่แหล่งข่าววงในเผยว่า กระทรวงการคลังของสหรัฐฯก็แจ้งว่ากำลังพิจาณาเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

บลูมเบิร์กให้บริการทั้งด้านข่าวสารและระบบข้อมูลการเงิน แต่จอสำหรับดูระบบข้อมูลการเงินจะแยกออกต่างหากจากจากจอดูเรื่องข่าวสาร โดยที่จอระบบข้อมูลการเงินของบลูมเบิร์กนั้น ลูกค้าสามารถใช้คำนวณทำวิจัยสินทรัพย์ทางการเงินประเภทต่างๆ ได้มากมายหลายหลาก ตลอดจนใช้เพื่อสั่งซื้อขายได้ด้วย จึงเป็นที่นิยมของพวกแบงก์ตลอดจนสถาบันทางการเงินและนักวิชาชีพทางการเงินทั้งหลาย

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่สร้างความกังวลให้เหล่าลูกค้าก็คือ นักข่าวของบลูมเบิร์กดูเหมือนจะได้รับสิทธิให้เข้าถึงข้อมูลที่ว่า ลูกค้ามีการใช้จอระบบข้อมูลการเงินของบลูมเบิร์กอย่างไรบ้าง อย่างน้อยก็ในระดับจำกัดระดับหนึ่ง

ย้อนกลับไปเมื่อวันอาทิตย์ (12) สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อดีตพนักงานคนหนึ่งของบลูมเบิร์กยอมรับว่า เคยเข้าถึงข้อมูลการใช้งานระบบข้อมูลการเงินของบลูมเบิร์ก ซึ่งใช้โดยเบน เบอร์นันกี ประธานเฟด และที่ใช้โดย ทิโมธี ไกธ์เนอร์ ในตอนที่เขายังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ

ก่อนหน้านั้นไปอีกคือในวันศุกร์ที่แล้ว (10) บลูมเบิร์กประกาศว่า ได้ระงับไม่ให้นักข่าวของตนสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวแล้ว ภายหลังมีรายงานออกมาว่า นักข่าวของบลูมเบิร์กมีใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นช่องทางในการสอดแนมความเคลื่อนไหวของพวกแบงก์ในวอลล์สตรีท

วันเดียวกันนั้นเอง หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ แบงก์ยักษ์วอลล์สตรีทรายหนึ่ง ได้แสดงความกังวลโดยตรงกับบริษัทบลูมเบิร์ก เรื่องที่นักข่าวของฝ่ายหลังอาศัยการเข้าถึงข้อมูลการใช้ระบบข้อมูลการเงินของบลูมเบิร์ก มาสอดส่องกิจกรรมของพนักงานของโกลด์แมน โดยพบว่านักข่าวของบลูมเบิร์กสามารถทราบว่า พนักงานคนใดบ้างของโกลด์แมนเข้าสู่ระบบข้อมูลการเงินที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของบลูมเบิร์ก และใช้ฟังก์ชันใดในระบบดังกล่าวไปกี่ครั้ง

ขณะที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ก็รายงานว่า แบงก์ยักษ์วอลล์สตรีทอีกแห่งหนึ่ง คือ เจพีมอร์แกน เชส ได้ร้องเรียนเช่นกันว่า นักข่าวของบลูมเบิร์กสอดแนมกิจกรรมของพนักงานของธนาคาร

แมทธิว วิงค์เลอร์ บรรณาธิการใหญ่ของบลูมเบิร์ก นิวส์ ได้ออกมาขอโทษผ่านบทบรรณาธิการที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ Bloomberg.com เมื่อวันจันทร์ว่า นักข่าวไม่ควรมีช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถือเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะ และขออภัยต่อความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยนี้ พร้อมกันนั้นเขายืนยันว่า ข้อมูลสำคัญของลูกค้าได้รับการปกป้องอย่างดีมาตลอด

วิงค์เลอร์อธิบายว่า นักข่าวของบริษัทสามารถเข้าถึงเพียงแค่ประวัติการเข้ามาใช้จอระบบข้อมูลการเงินของผู้ใช้ ตลอดจนการใช้ฟังก์ชันระดับแรกๆ ของผู้ใช้นั้นๆ โดยภาพรวม แต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับฟังก์ชั่นซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ เป็นต้นว่า การสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ พอร์ตการลงทุน เรื่องราวที่ลูกค้าอ่าน หรือหลักทรัพย์ที่ลูกค้าอาจสนใจ

บลูมเบิร์ก นิวส์ นั้นก่อตั้งขึ้นโดย ไมเคิล บลูมเบิร์ก แต่อภิมหาเศรษฐีซึ่งนิตยสารฟอร์บส์ระบุว่ามีทรัพย์สินสุทธิอยู่ 27,000 ล้านดอลลาร์ผู้นี้ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์กมาตั้งแต่ปี 2002 และเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการประจำวันของบริษัทแห่งนี้นับตั้งแต่นั้น

วิงค์เลอร์สำทับว่า แนวทางปฏิบัติที่ให้นักข่าวสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จอระบบข้อมูลการเงินของลูกค้าในระดับจำกัดนี้ ได้ใช้กันมาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ซึ่งก็คือในยุคที่บลูมเบิร์กยังคุมบริษัทเต็มตัว ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้นักข่าวสามารถใช้หน้าจอข้อมูลค้นหาว่า ลูกค้าต้องการข่าวประเภทใด

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้พวกผู้บริหารระดับสูงของโกลด์แมนได้เคยแสดงความกังวลว่า ถึงแม้นักข่าวของบลูมเบิร์กเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าได้เพียงจำกัด ทว่า พวกเทรดเดอร์ค้าหลักทรัพย์ก็ยังคงสามารถทำกำไรได้กระทั่งเพียงแค่รู้ประเภทหลักทรัพย์ที่ลูกค้าระดับสูงสนใจ หรือคำถามที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสอบถามค้นหาจากบริการระบบข้อมูลการเงินของบลูมเบิร์ก

ดูเหมือนว่าบลูมเบิร์กพยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นคราวนี้ โดยเน้นพูดจากับพวกลูกค้าของตนโดยตรง และไม่ปรารถนาที่จะตกเป็นข่าวทางสื่ออื่นๆ โดยที่มีลูกค้าของบลูมเบิร์กแจ้งต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า แดเนียล ด็อกเทอรอฟฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบลูมเบิร์ก ได้ส่งข้อความไปถึงพวกลูกค้าผ่านทางระบบของบลูมเบิร์กในวันอังคาร เพื่อประกาศว่าเขาได้เริ่มสร้างบล็อกใหม่ เพื่อที่จะ “พูดจาเป็นการส่วนตัวและโดยตรงกับบรรดาลูกค้า, ลูกจ้างพนักงาน, และหุ้นส่วนของเรา”

ทั้งนี้ บลูมเบิร์กเป็นคู่แข่งโดยตรงของ ธอมสัน รอยเตอร์ บริษัทแม่ของสำนักข่าวรอยเตอร์

บลูมเบิร์กมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการขายระบบข้อมูลการเงิน ปัจจุบัน มีสมาชิกระบบข้อมูลนี้กว่า 315,000 รายทั่วโลก และลูกค้าแต่ละรายต้องจ่ายค่าบริการปีละกว่า 20,000 ดอลลาร์ ในปีที่แล้ว บลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทมีรายได้สูงถึง 7,900 ล้านดอลลาร์
กำลังโหลดความคิดเห็น