ลูกค้าของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และกระทรวงการคลังของสหรัฐ กำลังทำการตรวจสอบว่า มีการรั่วไหลของข้อมูลที่เป็นความลับหรือไม่ แม้บลูมเบิร์กได้ห้ามไม่ให้นักข่าวเข้าถึงข้อมูลลูกค้าแล้ว และได้แต่งตั้งตำแหน่งที่จะดูแลการสั่งห้ามดังกล่าว เพื่อพยายามที่จะคลายความวิตกเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
บลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการข้อมูลการเงินและข่าว โดยมีลูกค้าใช้จอของบริษัทอย่างกว้างขวางในย่านวอลล์สตรีทนั้น ได้อนุญาตให้นักข่าวเข้าถึงข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับการใช้จอของลูกค้า รวมถึงการล็อกอินครั้งสุดท้าย ของลูกค้า และความถี่ในการส่งข้อความหรือการดูข้อมูลประเภทต่างๆ อาทิ หุ้นหรือพันธบัตร
นายดาเนียล ด็อกโตรอฟฟ์ ซีอีโอของบลูมเบิร์ก ระบุในแถลงการณ์ว่า ในเดือนที่ผ่านมา บริษัทได้สั่งห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าถึงข้อมูลการใช้งานของลูกค้าหลังจากการร้องเรียนของลูกค้ารายหนึ่ง
ลูกค้าของบลูมเบิร์กดังกล่าวซึ่งได้แก่โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ได้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวต่อบลูมเบิร์กหลังจากนักข่าวรายหนึ่งในฮ่องกงได้ สอบถามโกลด์แมน แซคส์เกี่ยวกับสถานะการจ้างงานของหุ้นส่วนรายหนึ่ง
โดยระบุว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้ล็อกอินเข้าระบบใช้งานของบลูมเบิร์กมาระยะหนึ่ง ขณะที่โกลด์แมนพบว่า นักข่าวได้เข้าถึงข้อมูลมากเกินกว่าที่โกลด์แมนทราบ และระบุว่าข้อมูลดังกล่าวมีความอ่อนไหวและไม่ควรให้นักข่าวเห็น
นายด็อกโตรอฟฟ์ระบุในแถลงการณ์บนบล็อกของบลูมเบิร์กว่า "บริษัทตระหนักถึงความผิดพลาดนี้ และเราได้ดำเนินการในทันที" และระบุว่าบริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดูแลข้อมูลลูกค้าเพื่อรับประกันว่า ฝ่ายข่าวของบริษัทจะ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับของลูกค้า
เขาระบุว่า แม้แต่ภายใต้นโยบายก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวของบลูมเบิร์กก็ไม่สามารถที่จะเห็นข่าวที่ลูกค้าอ่าน หรือหลักทรัพย์ที่ลูกค้าพิจารณา
บลูมเบิร์กมีนักข่าวทั่วโลกราว 2,400 คน
ขณะที่บางรายระบุว่าความวิตกดังกล่าวมีมากเกินไป แต่ข่าวดังกล่าวก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความลับของข้อมูลที่อ่อนไหวของบริษัทในตลาดวอลล์สตรีท อาทิ โกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกน เชส รวมถึงเฟด และหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ใช้จอของบลูมเบิร์ก
โฆษกของเฟดระบุว่า "เรากำลังพิจารณาสถานการณ์นี้ และได้ติดต่อกับบลูมเบิร์กเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม" และแหล่งข่าวอีกรายระบุว่า กระทรวงการคลังก็กำลังทำการพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย
ผู้บริหารระดับสูงของโกล์แมน แซคส์ระบุว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวของบลูมเบิร์กสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างจำกัดนั้น เทรดเดอร์รายหนึ่งสามารถทำเงินได้อย่างง่ายดายเพียงแค่รู้ถึงประเภทหลักทรัพย์ที่ผู้ใช้ บริการรายใหญ่กำลังทำการพิจารณา หรือคำถามที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสอบถามกับทาง help desk ของบลูมเบิร์ก
พวกเขาเริ่มที่จะวิตกเกี่ยวกับผู้ที่จะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ซึ่งประเด็นนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ของโกลด์แมน แซคส์ไม่สบายใจแม้แต่การเข้าถึงข้อมูลของบรรดาทีมงานด้านมาร์เก็ตติ้งและการขายของบลูมเบิร์ก
บุคคลที่ใกล้ชิดกับสถานการณ์ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีลูกค้ารายใดของบลูมเบิร์กทำการยกเลิกบริการอันเนื่องมาจากประเด็นดังกล่าว
ด้านธอมสัน รอยเตอร์ระบุในแถลงการณ์ว่า ฝ่ายข่าวของบริษัททำงานเป็นเอกเทศ โดยผู้สื่อข่าวจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของลูกค้า
"ธอมสัน รอยเตอร์ทำการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุง การใช้งานผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ของลูกค้า โดยไม่มีพนักงานฝ่ายข่าวของรอยเตอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ ขณะที่บริษัทมีการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของบรรดาพนักงานอื่นๆด้วย" ธอมสัน รอยเตอร์ระบุ
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
T.Thammasak
บลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการข้อมูลการเงินและข่าว โดยมีลูกค้าใช้จอของบริษัทอย่างกว้างขวางในย่านวอลล์สตรีทนั้น ได้อนุญาตให้นักข่าวเข้าถึงข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับการใช้จอของลูกค้า รวมถึงการล็อกอินครั้งสุดท้าย ของลูกค้า และความถี่ในการส่งข้อความหรือการดูข้อมูลประเภทต่างๆ อาทิ หุ้นหรือพันธบัตร
นายดาเนียล ด็อกโตรอฟฟ์ ซีอีโอของบลูมเบิร์ก ระบุในแถลงการณ์ว่า ในเดือนที่ผ่านมา บริษัทได้สั่งห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าถึงข้อมูลการใช้งานของลูกค้าหลังจากการร้องเรียนของลูกค้ารายหนึ่ง
ลูกค้าของบลูมเบิร์กดังกล่าวซึ่งได้แก่โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ได้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวต่อบลูมเบิร์กหลังจากนักข่าวรายหนึ่งในฮ่องกงได้ สอบถามโกลด์แมน แซคส์เกี่ยวกับสถานะการจ้างงานของหุ้นส่วนรายหนึ่ง
โดยระบุว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้ล็อกอินเข้าระบบใช้งานของบลูมเบิร์กมาระยะหนึ่ง ขณะที่โกลด์แมนพบว่า นักข่าวได้เข้าถึงข้อมูลมากเกินกว่าที่โกลด์แมนทราบ และระบุว่าข้อมูลดังกล่าวมีความอ่อนไหวและไม่ควรให้นักข่าวเห็น
นายด็อกโตรอฟฟ์ระบุในแถลงการณ์บนบล็อกของบลูมเบิร์กว่า "บริษัทตระหนักถึงความผิดพลาดนี้ และเราได้ดำเนินการในทันที" และระบุว่าบริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดูแลข้อมูลลูกค้าเพื่อรับประกันว่า ฝ่ายข่าวของบริษัทจะ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับของลูกค้า
เขาระบุว่า แม้แต่ภายใต้นโยบายก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวของบลูมเบิร์กก็ไม่สามารถที่จะเห็นข่าวที่ลูกค้าอ่าน หรือหลักทรัพย์ที่ลูกค้าพิจารณา
บลูมเบิร์กมีนักข่าวทั่วโลกราว 2,400 คน
ขณะที่บางรายระบุว่าความวิตกดังกล่าวมีมากเกินไป แต่ข่าวดังกล่าวก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความลับของข้อมูลที่อ่อนไหวของบริษัทในตลาดวอลล์สตรีท อาทิ โกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกน เชส รวมถึงเฟด และหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ใช้จอของบลูมเบิร์ก
โฆษกของเฟดระบุว่า "เรากำลังพิจารณาสถานการณ์นี้ และได้ติดต่อกับบลูมเบิร์กเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม" และแหล่งข่าวอีกรายระบุว่า กระทรวงการคลังก็กำลังทำการพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย
ผู้บริหารระดับสูงของโกล์แมน แซคส์ระบุว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวของบลูมเบิร์กสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างจำกัดนั้น เทรดเดอร์รายหนึ่งสามารถทำเงินได้อย่างง่ายดายเพียงแค่รู้ถึงประเภทหลักทรัพย์ที่ผู้ใช้ บริการรายใหญ่กำลังทำการพิจารณา หรือคำถามที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสอบถามกับทาง help desk ของบลูมเบิร์ก
พวกเขาเริ่มที่จะวิตกเกี่ยวกับผู้ที่จะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ซึ่งประเด็นนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ของโกลด์แมน แซคส์ไม่สบายใจแม้แต่การเข้าถึงข้อมูลของบรรดาทีมงานด้านมาร์เก็ตติ้งและการขายของบลูมเบิร์ก
บุคคลที่ใกล้ชิดกับสถานการณ์ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีลูกค้ารายใดของบลูมเบิร์กทำการยกเลิกบริการอันเนื่องมาจากประเด็นดังกล่าว
ด้านธอมสัน รอยเตอร์ระบุในแถลงการณ์ว่า ฝ่ายข่าวของบริษัททำงานเป็นเอกเทศ โดยผู้สื่อข่าวจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของลูกค้า
"ธอมสัน รอยเตอร์ทำการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุง การใช้งานผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ของลูกค้า โดยไม่มีพนักงานฝ่ายข่าวของรอยเตอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ ขณะที่บริษัทมีการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของบรรดาพนักงานอื่นๆด้วย" ธอมสัน รอยเตอร์ระบุ
(ข่าวจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
T.Thammasak