ปกตินักลงทุนและนักเก็งกำไรมักจะชอบไปฟังสัมมนาให้ความรู้เรื่องการวิเคราะห์เรื่องกราฟที่เรียกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่น้อยแห่งนักที่จะสอนถึงแนวคิดการลงทุนการเก็งกำไรที่ดี หากจะได้ฟังก็มักจะต้องไปฟังผู้ที่เป็นนักเก็งกำไรหรือนักลงทุนที่มีการเทรดจริงมาก่อนแล้วยังประสบความสำเร็จ เพราะบุคคลเหล่านี้เรียกว่าผ่านสนามรบจริงมาแล้วเอาตัวรอดมาได้ จากที่เคยคุยกับเทรดเดอร์และนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จะมีแนวคิดบางอย่างที่คล้ายๆกันซึ่งวันนี้จะขอเอามาสรุปให้ฟัง
ทำการบ้านให้หนักเพื่อค้นพบตัวเอง
ทหารบางคนรบเก่งในป่า บางคนเก่งในทะเลทราย บางคนเก่งในน้ำ นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรก็เช่นกัน ต้องหาสินค้าหรือสินทรัพย์ที่เหมาะกับสไตล์ที่เราถนัดให้ได้ จะเป็นหุ้น ทองคำ ฟิวเจอร์ส ที่ดิน นาฬิกา พระ ฯลฯ อะไรก็ได้ที่เรารู้จริงรู้ดี ได้เปรียบ บางคนซื้อขายอินเตอร์เน็ทเก่ง แต่บางคนซื้อขายอินเตอร์เน็ทกลับคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จนขาดทุนมากมายก็มี บางคนกลัวความเสี่ยง เจอราคาผันผวนนิดหน่อยก็อยู่ไม่เป็นสุข แต่บางคนกลับทำได้ดีเมื่อเจอราคาผันผวน เพราะฉะนั้นต้องมั่นใจว่า สิ่งที่เรากำลังไปลงทุน เรามีข้อได้เปรียบกว่าคนส่วนใหญ่ในตลาด และเราเหมาะกับการลงทุนประเภทนั้น เหมาะกับความเสี่ยงระดับนั้น
พยายามขาดทุนให้น้อยที่สุด
การลงทุนมีความเสี่ยง เรามักจะได้ยินคำนี้เสมอ แสดงว่าการลงทุนแทบจะทุกชนิดมีโอกาสขาดทุน แต่คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะพยายามลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนให้ได้มากที่สุด กระทำได้โดยหลายวิธีเช่น ศึกษาข้อมูลจนรู้ถึงแก่นแท้ในสินทรัพย์ตัวนั้นๆเมื่อและเลือกเข้าลงทุนเมื่อโอกาสชนะมากกว่าแพ้มากๆ ซึ่งจะยอมขาดทุนก็ต่อเมื่อสิ่งที่วิเคราะห์มาอย่างดีแล้วนั้นมันเปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จมักจะให้ความสำคัญกับฝั่งกำไรโดยมองข้ามฝั่งขาดทุนไป
ใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
ราคาที่ผันผวนในตลาดมักจะทำให้คนที่เฝ้าติดตามนั้นเกิดอารมณ์ร่วม ซึ่งอารมณ์จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ ความกลัว และความโลภ โดยความกลัวจะทำให้คนมองเห็นแต่คำว่า “ความเสี่ยง” ส่วนความโลภจะทำให้คนมองเห็นแต่คำว่า “กำไร” ทำให้หลายๆครั้งเวลาราคาสินทรัพย์ตัวใดตัวหนึ่งต่ำมากๆแต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าซื้อเพราะความกลัวครอบงำ ตรงกันข้ามกับเมื่อราคาสินทรัพย์ตัวเดียวกันแพงมากๆเกินความเหมาะสมแต่คนส่วนใหญ่กลับกล้าซื้อเพราะความโลภมันบังตา
ถ้าพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน แนวโน้มยังคงเดิม อย่าเดาว่ามันจะเปลี่ยน
การทำนายอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่มีความไม่แน่นอนสูง เพราะฉะนั้นตราบใดที่ปัจจัยหลักหรือแนวโน้มของราคา วัฏจักรของราคา มันยังไม่เปลี่ยน ก็พยายามอย่าไปคิดว่ามันจะเปลี่ยน ก่อนจะเข้าไปลงทุนต้องตอบให้ได้ก่อนว่าเหตุผลในการซื้อคืออะไร เช่นเดียวกับการขายก่อนขายต้องตอบให้ได้ก่อนว่าทำไมถึงขาย เพราะเราเดาเอาเองหรือเปล่าว่ามันจะขึ้นหรือมันจะลง
แนวคิดหลักๆที่ฟังดูเหมือนสิ่งง่ายๆเหล่านี้ทุกคนอาจเคยได้ยิน แต่เฉพาะคนที่ทำได้เท่านั้นถึงจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จ ลองทบทวนสิ่งที่ทำในอดีตว่าที่เราไม่ประสบความสำเร็จเพราะเรามองข้ามหลักคิดพื้นๆพวกนี้ไปหรือเปล่า
สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก