เอเจนซีส์ - จากแถลงการณ์ของหน่วยงาน FBI สหรัฐฯในวันจันทร์(16) รายงานการจับกุมอาชญากรรมประจำปี 2012 ว่า ในสหรัฐฯ มียอดการจับกุมกัญชาถึง 749,285 ราย หรือเท่ากับ ชาวอเมริกันถูกจับด้วยข้อหามีกัญชาในครอบครองทุก 48 วินาที ถึงแม้จะมีการออกกฏหมายการใช้กัญชาอย่างถูกต้องในสหรัฐฯ
จากคำแถลงการณ์ของสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ที่มีการเผยแพร่ในวันจันทร์ (16) พบว่า ในปี 2012 มียอดการจับกุมกัญชาลดลงเพียงเล็กน้อย แค่ 48.5% หรือราว 749,285 ราย เมื่อเทียบกับยอดการจับกุมในปี 2011 อยู่ที่ 49.5 % หรือราว 757,969 ราย
โดยราว 87% ของจำนวนการจับกุมทั้งหมดนี้มาจากข้อหาการมีกัญชาไว้ในครอบครอง ซึ่งหมายความว่า มีชาวอเมริกันถึง 658,231 รายถูกจับในข้อหามีกัญชาไว้ในความครอบครอง และชาวอเมริกันจำนวนอีก 91,593 ราย ถูกจับในข้อหาจำหน่ายหรือผลิต
ซึ่งจากตัวเลขข้างต้นนี้แสดงให้เห็นว่า ชาวอเมริกัน 1 รายจะถูกจับฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองในทุก 48 วินาที
โดยเมื่อดูจากสถิติของ FBI ปีล่าสุดแล้วพบว่า อาชญากรรมที่เกี่ยวของกับกัญชานั้นยังคงสูงอยู่ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปก็ตามถึงแม้ว่า ประชาชนชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะมีความเห็นว่า ควรอนุญาตให้มีการเสพกัญชาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และสอดคล้องกับผลสำรวจของสถาบันวิจัยพิวที่มีการเผยแพร่เมื่อเดือนเมษายน รายงานว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่คิดว่า ควรจะมีภาษีกัญชาและมีกฏหมายควบคุมเหมือนอย่างเช่นที่ทำกับสุรา
แดน ริฟเฟิล ผู้อำนวยการด้านนโยบายสาธารณะของกลุ่มเคลื่อนไหว Marijuana Policy Project ได้วิพากษ์รายงานประจำปีของFBI ว่า รายงานของFBI ที่ออกมาล่าสุดต่างจากรายงานของสถาบันวิจัยพิวในเดือนเมษายน “แทนที่จะจับกุมและลงโทษผู้เสพกัญชา เราควรจะสนใจอาชญากรรมที่ร้ายแรงกว่านั้น ในฐานะที่ผมเป็นอดีตอัยการ ผมคิดว่ามันเป็นการเสียเวลาและทรัพยากรที่ต้องใช้เป็นแค่เพียงเพราะว่าคนต้องการใช้กัญชาซึ่งมีอันตรายน้อยกว่าสุรา ทั้งตำรวจและอัยการควรจะใช้เวลาให้มีค่ามากกว่านั้น ไม่ต้องอะไรดูจากผลสำรวจที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต้องการให้กัญชามีการใช้และควบคุมอย่างถูกต้องเหมือนสุรา”
ด้านแฮร์รี เลวีน ศาสตราจารย์สังคมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย The City University of New York (CUNY) และนักวิจัยนโยบายกัญชา กล่าวว่า รายงานของFBI จากสถิติการจับกุมกัญชาที่มีไว้ในครอบครองนั้นถือว่าเป็น “ข่าวฉาวระดับประเทศ” โดยเลวีน ที่สนับสนุนการใช้กัญชาอย่างถูกต้องมานานแล้วเผยว่า ในมหานครนิวยอร์ก ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี มีชาวอเมริกันจำนวนเพิ่มมากขึ้นถูกจับกุมตัวเพราะการมีกัญชาไว้ในครอบครองมากกว่าสถิติการจับกุมในอาชญากรรมประเภทอื่น โดย 1 ใน 8 ของการจับกุมนั้นเป็นการจับกุมการมีกัญชาไว้ในการครอบครองเพียงแค่ปริมาณที่น้อยมาก และมันเป็นแบบเดียวกันในทุกเมืองหรือทุกเคาน์ตีทั่วสหรัฐฯ
และนอกจากนี้ยังพบว่า ตำรวจส่วนมากได้ทำการจับกุมวัยรุ่นอเมริกันที่จัดว่าเป็นพวกมีรายได้น้อยในข้อหาครอบครองกัญชา จากสถิติเป็นชายราว 90% ส่วนมากเป็นประชากรเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันหรืออเมริกันเชื้อสายลาตินอเมริกา
ซึ่งในช่วง 15 ปีมานี้ ทั้งตำรวจและนายอำเภอตามเมืองใหญ่และเคาน์ตีทั่วสหรัฐฯ ได้ทำการจับกุมการมีกัญชาไว้ในความครอบครองรวมกันมากกว่า 10 ล้านราย แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า จากผลการวิจัยระดับชาติในหลายๆปีพบว่า เด็กวัยรุ่นผิวขาวใช้กัญชามากกว่าเด็กวัยรุ่นชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ แต่ทว่าพบว่าเด็กวัยรุ่นชนกลุ่มน้อยถูกตำรวจเรียกให้หยุดเพื่อการตรวจค้นมากกว่าเด็กวัยรุ่นผิวขาว
และล่าสุดในเดือนที่ผ่านมา ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯประกาศว่า ทางทำเนียบขาวจะไม่มียุ่งเกี่ยวที่แต่ละรัฐจะออกกฏหมายบังคับใช้กัญชา ที่ก่อนหน้านี่ทั้งมลรัฐโคโลราโด มลรัฐวอชิงตันได้ประสบความสำเร็จออกกฎหมายอนุญาตการใช้กัญชาอย่างถูกต้องไปแล้ว
