ติดตามความเคลื่อนไหวกันมานานสองนานในที่สุด BMW ก็เผยโฉมคันจริงของ i3 รถยนต์ไฟฟ้าแบบ E-REV ที่เป็น ผลผลิตของโครงการ Megacity ออกมาแล้ว โดยจะเริ่มขายในยุโรปปลายปีนี้ด้วยราคาประมาณ 1.4 ล้านบาทเท่านั้น
i3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ BMW ที่ถูกส่งออกขายอย่างเป็นทางการในเชิงพาณิชย์ ซึ่งโปรเจ็กต์นี้ค่ายใบพัดสีฟ้านำเสนอออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2011 กับรถยนต์ในชื่อ MCV หรือ Mega City Vahicle ก่อนที่จะมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่ารถยนต์ที่อยู่ในกลุ่มรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมจะหันมาใชชื่อรุ่นแบรนด์ย่อยว่า I เหมือนอย่างที่ MCV กลายมาเป็น i3 สำหรับขายในตลาด และ i8 ที่เป็นสปอร์ตไฮบริดซึ่งจะเปิดตัวขายในปีถัดมา
i3 จะเป็นรถยนต์ขนาดซับคอมแพ็กต์แบบ 5 ประตูที่มีความยาวเฉียดๆ 4 เมตร และตัวถังได้รับ การผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งตรงนี้ทาง BMW ลงทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการก่อสร้างโรง งานผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ที่ Moses lake มลรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
หน้าที่หลักในการขับเคลื่อนตัวรถ ในแบบ E-REV หรือ Extended-Range Electric Vehicle คล้ายกับเชฟโรเลต โวลต์ โดยหน้าที่หลักจะเป็นงานของมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถผลิตกำลังออกมาได้สูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. และมีเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเบนซิน 2 สูบ 650 ซีซี 34 แรงม้ารับหน้าที่ชาร์จกระแสไฟฟ้าเช้ามาเก็บในแบตเตอรี่ และมีถังน้ำมันขนาด 9 ลิตรติดตั้งภายในรถ
ในแง่สมรรถนะ แม้จะติดตั้งล้อไซส์ 19 นิ้วแต่ก็มีหน้าก็แคบมากไม่เกิน 200 มม.และบวกกับน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 1,195 กิโลกรัม ทำให้ตัวรถจัดจ้านเอาเรื่อง ใช้เวลาเพียง 3.2 วินาทีในการทำอัตราเร่ง 0-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือ 7.2 วินาทีสำหรับ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนในของการใช้งาน ถ้าอาศัยเฉพาะพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ เมื่อชาร์จจนเต็มจะแล่นได้ระยะทางประมาณ 130-160 กิโลเมตร ซึ่งถ้าเครื่องยนต์ถูกปลุกขึ้นมาชาร์จกระแสไฟฟ้าก็จะทำให้เพิ่มระยะทางการขับจนน้ำมันหมดถังได้เป็น 300 กิโลเมตร
การทำตลาดจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่ประเทศเยอรมนี โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 34,950 ยูโร หรือไม่เกิน 1.4 ล้านบาท
i3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ BMW ที่ถูกส่งออกขายอย่างเป็นทางการในเชิงพาณิชย์ ซึ่งโปรเจ็กต์นี้ค่ายใบพัดสีฟ้านำเสนอออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2011 กับรถยนต์ในชื่อ MCV หรือ Mega City Vahicle ก่อนที่จะมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่ารถยนต์ที่อยู่ในกลุ่มรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมจะหันมาใชชื่อรุ่นแบรนด์ย่อยว่า I เหมือนอย่างที่ MCV กลายมาเป็น i3 สำหรับขายในตลาด และ i8 ที่เป็นสปอร์ตไฮบริดซึ่งจะเปิดตัวขายในปีถัดมา
i3 จะเป็นรถยนต์ขนาดซับคอมแพ็กต์แบบ 5 ประตูที่มีความยาวเฉียดๆ 4 เมตร และตัวถังได้รับ การผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งตรงนี้ทาง BMW ลงทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการก่อสร้างโรง งานผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ที่ Moses lake มลรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
หน้าที่หลักในการขับเคลื่อนตัวรถ ในแบบ E-REV หรือ Extended-Range Electric Vehicle คล้ายกับเชฟโรเลต โวลต์ โดยหน้าที่หลักจะเป็นงานของมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถผลิตกำลังออกมาได้สูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. และมีเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเบนซิน 2 สูบ 650 ซีซี 34 แรงม้ารับหน้าที่ชาร์จกระแสไฟฟ้าเช้ามาเก็บในแบตเตอรี่ และมีถังน้ำมันขนาด 9 ลิตรติดตั้งภายในรถ
ในแง่สมรรถนะ แม้จะติดตั้งล้อไซส์ 19 นิ้วแต่ก็มีหน้าก็แคบมากไม่เกิน 200 มม.และบวกกับน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 1,195 กิโลกรัม ทำให้ตัวรถจัดจ้านเอาเรื่อง ใช้เวลาเพียง 3.2 วินาทีในการทำอัตราเร่ง 0-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือ 7.2 วินาทีสำหรับ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนในของการใช้งาน ถ้าอาศัยเฉพาะพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ เมื่อชาร์จจนเต็มจะแล่นได้ระยะทางประมาณ 130-160 กิโลเมตร ซึ่งถ้าเครื่องยนต์ถูกปลุกขึ้นมาชาร์จกระแสไฟฟ้าก็จะทำให้เพิ่มระยะทางการขับจนน้ำมันหมดถังได้เป็น 300 กิโลเมตร
การทำตลาดจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่ประเทศเยอรมนี โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 34,950 ยูโร หรือไม่เกิน 1.4 ล้านบาท