xs
xsm
sm
md
lg

กลัวฉาว?? “รัฐบาลวอร์ซอ” ร้อง “ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป” ให้มีการ “ไต่สวนลับ” คดี “คุกลับ CIA ในโปแลนด์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนามบินเล็กๆในที่ห่างไกลทางเหนือของโปแลนด์ซึ่งมีรายงานว่าเครื่องบินCIAได้ทำการร่อนลงจอด
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - รัฐบาลโปแลนด์ได้ร้องขอให้ศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรป หรือ ECHR ไม่อนุญาตให้การพิจารณาคดี “คุกลับ CIA” ที่อดีตรัฐบาลโปแลนด์ได้อนุญาตให้หน่วย CIA ของสหรัฐฯ ใช้โปแลนด์เป็นคุกลับสำหรับการทรมานนักโทษ นั้นเปิดเผยสู่สื่อและสาธารณชน ซึ่งการใต่สวนนี้จะเริ่มมีขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ โดยคดีนี้ถูกนำขึ้นฟ้องโดย อบู ซุบัยดะห์ และอับดุลเราะฮีม อัล-นาชิรี นักโทษสมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์

คำขอของรัฐบาลโปแลนด์ต่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป หรือ ECHR ในครั้งนี้ทำให้เป็นที่วิพากษ์ต่อกลุ่มสิทธิมนุษยชนในโปแลนด์เป็นอย่างมาก โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลวอร์ซอพยายาม “ซ่อนเร้น” ความข้องเกี่ยวกับโครงการคุกลับของหน่วย CIA ของสหรัฐฯ ในประเทศโปแลนด์

โดยการเริ่มไต่สวนครั้งแรกกำหนดให้มีขึ้นที่ศาลECHR ในเมืองสทราซบูร์ แคว้นอาลซัส ฝรั่งเศศ โดยคดีนี้มีที่มาจาก อบู ซุบัยดะห์ และอับดุลเราะฮีม อัล-นาชิรี นักโทษสมาชิกกลุมอัลกออิดะห์ได้ยื่นฟ้องผ่านตัวแทนทนายว่าพวกเขาโดนถูกจับขังในคุกลับของ CIA ในโปแลนด์ ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการไต่สวนคดีนี้ในศาลให้สาธารณชนเข้ารับฟัง

ตั้งแต่นั้นมา ทางรัฐบาลโปแลนด์ได้ยื่นต่อ ศาล ECHR เพื่อร้องขอให้มีการเปิดไต่สวนแบบลับ โดยโฆษกศาล ECHR ได้เผยกับรอยเตอร์ว่า “คำขอนี้จะได้รับการพิจารณาจากศาลโดยเร็ว” อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ที่มีหน้าที่ดูแลคดีนี้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ โดยแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์ถึงรอยเตอร์นั้นอ้างว่า รอยเตอร์ควรไปติดต่อขอข้อมูลจากศาล

อดัม บอดนาร์ รองประธานกลุ่มสิทธิมนุษยชน “Helsinki Foundation For Human Rights” ที่มีฐานอยู่ในกรุงวอร์ซอ กล่าวว่า “มีหลักฐานมากมายที่บ่งชี้ถึงคุกลับ CIA ว่ามันมีอยู่จริงซึ่งเป็นที่รับรู้ในวงกว้าง ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดเป็นความลับ เราควรมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ในการดำเนินคดีนี้” โดยองค์กรของบอดนาร์นั้นเป็นผู้เปิดเผยความลับการร่วมมือกันระหว่างหน่วยการข่าวโปแลนด์ และ CIA “ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องให้กระบวนการไต่สวนคดีนี้เป็นความลับ” บอดนาร์ ยืนยัน

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอร์จ ดับเบิลยู บุช รับรู้ถึงการมีตัวตนของคุกลับ CIA หรือที่เรียว่า “black sites” ในวันที่ 6 กันยายน 2006 เกือบจะปีหลังจากมีข่าวฉาวที่ถูกเปิดโปงออกมาโดยสำนักข่าวและกลุ่ม NGO เมื่อหลังจากวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดเมื่อ 11 กันยายน 2001 นั้น CIA ได้เปิดคุกลับทั่วโลก โดยมีข่าวว่ามีอยู่ในไทยด้วย ซึ่งคุกลับต่างแดนเหล่านี้อยู่ภายใต้โครงการ “การสอบปากคำแบบพิเศษ” เพื่อกักขังและรีดข้อมูลจากเหล่านักโทษก่อการร้ายกลุ่มอัลกออิดะห์ในต่างแดนซึ่งทาง CIA ต้องการหลีกเลี่ยงที่ต้องใช้กฎหมายสหรัฐฯบังคับใช้กับนักโทษเหล่านี้

รัฐบาลโปแลนด์เริ่มทำการสอบสวนลับๆ เองถึงคดีคุกลับ CIA นี้ ในปี 2008 โดยในต้นปี 2012 สำนักอัยการสูงสุดของโปแลนด์ได้เริ่มทำการสอบสวนอดีตหัวหน้าข่าวกรองโปแลนด์ Zbigneww Siemiatkowski ที่ถูกจับกุมตัวในเดือนมีนาคม 2012 ในเรื่องเกี่ยวข้องกับให้การช่วยเหลือในคุกลับ CIA โดยทั้งอบู ซุบัยดะห์ และอับดุลเราะฮีม อัล-นาชิรีนักโทษสมาชิกกลุมอัลกออิดะห์อ้างผ่านองค์กรนิรโทษสากลว่า พวกเขาถูก CIA ลักพาตัวและถูกทรมานระหว่างที่อยู่ในคุกลับที่ตั้งอยู่ใกล้ Stare Kiejkuty ทางตอนเหนือของโปแลนด์ ในปี 2002-2005 และขณะนี้คนทั้งคู่ถูกกักตัวอยู่ในคุกกวนตานาโม

นอกจากนี้ หน่วยงานองค์การนิรโทษสากลยังรายงานต่อว่า ระหว่างที่อยู่ในคุกลับที่โปแลนด์นั้น นาชิรีโดนทรมานต่างๆ นานาด้วยวิธีการไต่สวนลับพิเศษของ CIA เป็นต้นว่า ใช้ปืนขู่บังคับ หรือขู่จะมีการล่วงละเมิดทางเพศกับสมาชิกครอบครัวของเขา ในขณะที่ซุบัยดะห์นั้นถูกทรมานโดยการเทน้ำรดจมูกเพื่อให้รู้สึกเหมือนจมน้ำจำนวนถึง 83 ครั้ง ใน 1 เดือน ในขณะถูกจับกุมอยู่ในโปแลนด์

อย่างไรก็ตาม โปแลนด์ได้ปฏิเสธอย่างเป็นทางการถึงการที่มีอยู่ของคุกลับ CIA ภายในประเทศ ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลโปแลนด์จะยอมรับว่าในปี 2002 และ 2003 นั้น มีเครื่องบิน CIA แล่นลงจอดในสนามบินที่ห่างไกลใกล้กับสถานที่อ้างกันว่าเป็นคุกลับที่อยู่ทางเหนือของโปแลนด์

การเปิดคุกลับทรมานนักโทษภายในประเทศสมาชิกกลุ่มอียูนั้น ถือว่าผิดกฎหมายอียูว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและข้อกำหนดตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งประเทศสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรปต้องปฏิบัติตาม



หนึ่งในวิธีการทรมานของ CIAที่อบู ซุบัยดะห์ อ้างว่าเขาโดนจำนวนถึง 83 ครั้งภายใน 1 เดือนในระหว่างที่อยุ่ในคุกลับที่โปแลนด์
กำลังโหลดความคิดเห็น