เอเอฟพี – กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ขอให้รัฐสภาอเมริกันอนุมัติงบประมาณกว่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนปากีสถานในด้านความมั่นคงอีกครั้ง หลังจากที่หยุดชะงักไป เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แถลงวานนี้ (20 ต.ค.) ในช่วงเวลาที่ทั้งสองชาติกำลังพัฒนาสายสัมพันธ์ และนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ แห่งปากีสถานเดินทางมาเยือนสหรัฐฯ
“การดำเนินการนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการกลับมาเริ่มต้นแผนการสนับสนุนด้านความมั่นคงระยะยาวอีกครั้ง ภายหลังที่การดำเนินงานล่าช้าไประหว่างปี 2011 ถึง 2012 ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งสองประเทศขัดแย้งกัน” มารี ฮาร์ฟ รองโฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี
พัฒนาการเช่นนี้เกิดขึ้นในขณะที่จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบกับ ชารีฟ ซึ่งกำลังเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้แทนระดับสูงสุดของปากีสถานในรอบหลายปีที่ผ่านมา
“เรามีหลายประเด็นที่จะต้องหารือกันอีกมากมาย และความสัมพันธ์ (ระหว่างสหรัฐฯ กับ) ปากีสถานนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง” เคร์รีกล่าวในช่วงเริ่มต้นการประชุม
เขากล่าวว่าปากีสถานเป็น “ประเทศประชาธิปไตยที่กำลังพยายามอย่างหนักผลักดันเศรษฐกิจไปข้างหน้า และจัดการกับปัญหาความไม่สงบ อีกทั้งเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อเสถียรภาพในภูมิภาค”
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ทั้งสองได้ปรึกษากันในเรื่อง การร่วมมือกันในด้านปราบปรามการก่อการร้าย พลังงาน การค้า และการลงทุน ตลอดจนผลประโยชน์ที่ทั้งสองชาติจะได้รับร่วมกัน จากการป้องกันและสร้างความมั่นคงให้อัฟกานิสถาน”
“ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันว่า การร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายเป็นสิ่งสำคัญ และการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพสูงจะทำให้มีโอกาสขจัดคตินิยมแบบหัวรุนแรงเคร่งจารีตได้” กระทรวงการต่างประเทศเผย
ชารีฟได้รับเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งเมือเดือนพฤษภาคม และรัฐบาลสหรัฐฯ ได้กล่าวยกย่องเขา ที่พยายามกำจัดสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียใต้
สายสัมพันธ์ระหว่างปากีสถานกับสหรัฐฯ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เมื่อปี 2011 เคยถลำลงสู่จุดต่ำสุด เมื่อหน่วยคอมมานโดอเมริกันบุกปากีสถานฆ่าอุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำของกลุ่มอัลกออิดะห์ รวมทั้งสหรัฐฯ ยังได้โจมตีทางอากาศ ซึ่งทำให้ทหารปากีสถานเสียชีวิตไป 20 ราย
ฮาร์ฟ ระบุว่า ในช่วงเวลานั้น สหรัฐฯ ได้ยุติการสนับสนุนปากีสถานในด้านความมั่นคง แม้ว่าจะยังให้ความช่วยเหลือทางพลเรือนต่อไปเป็นมูลค่า 857 ล้านดอลลาร์
รองโฆษกผู้นี้กล่าวว่า การสนับสนุนปากีสถานในด้านความมั่นคงนั้น เป็นการสร้างสมรรถนะให้กองกำลังความมั่นคงของปากีสถาน “ซึ่งเป็นกำลังสำคัญ ในการจัดการปัญหาความรุนแรงในบริเวณพรมแดนตะวันตก” ซึ่งอยู่ติดกับอัฟกานิสถาน
นอกจากนี้เธอกล่าวต่อไปว่า “การให้ความช่วยเหลือพลเมืองปากีสถาน จะทำให้นายกฯ ชารีฟ และชาวปากีสถานทุกคนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงในด้านที่สำคัญยิ่ง อย่างด้านพลังงาน การศึกษา และการเติบโตของเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้ ชารีฟมีกำหนดจะพบกับประธานาธิบดีโอบามาในวันพุธนี้ (23) ภายหลังที่เมื่อเดือนสิงหาคม เคร์รีได้เดินทางไปเยือนกรุงอิสลามาบัดมาแล้ว