นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ของปากีสถาน เดินทางเยือนสหรัฐฯ และได้พบหารือกับนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน โดยถือเป็นการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบหลายปีของผู้นำปากีสถาน
นายแคร์รี กล่าวว่า สหรัฐฯ ถือว่าปากีสถานเป็นประเทศประชาธิปไตยที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า พร้อมๆ กับจัดการปัญหาความไม่สงบในประเทศ และถือด้วยว่าเป็นประเทศที่มีความสำคัญในแง่ความมั่นคงในภูมิภาค โดยระหว่างการหารือกันเมื่อวานนี้สหรัฐฯ และปากีสถานเห็นชอบที่จะร่วมมือกันต่อต้านการก่อการร้าย และร่วมมือกันอีกหลายด้านๆ เช่น พลังงาน การค้า และการลงทุน รวมถึงผลประโยชน์ร่วมกันในอัฟกานิสถานที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ นายชารีฟ ได้รับเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงชื่นชมของสหรัฐฯ ว่าดำเนินความพยายามหลายอย่างเพื่อยุติความตึงเครียดในเอเชียใต้ โดยสหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือด้านความมั่นคงในปากีสถานไปตั้งแต่ปี 2554 หลังจากที่สหรัฐฯ บุกสังหารอุซามะห์ บินลาดิน และปฏิบัติการโจมตีที่ทำให้ทหารปากีสถานเสียชีวิตถึง 24 คน
อย่างไรก็ตาม การความช่วยเหลือด้านพลเรือน จำนวน 857 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังคงอยู่
นายแคร์รี กล่าวว่า สหรัฐฯ ถือว่าปากีสถานเป็นประเทศประชาธิปไตยที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า พร้อมๆ กับจัดการปัญหาความไม่สงบในประเทศ และถือด้วยว่าเป็นประเทศที่มีความสำคัญในแง่ความมั่นคงในภูมิภาค โดยระหว่างการหารือกันเมื่อวานนี้สหรัฐฯ และปากีสถานเห็นชอบที่จะร่วมมือกันต่อต้านการก่อการร้าย และร่วมมือกันอีกหลายด้านๆ เช่น พลังงาน การค้า และการลงทุน รวมถึงผลประโยชน์ร่วมกันในอัฟกานิสถานที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ นายชารีฟ ได้รับเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงชื่นชมของสหรัฐฯ ว่าดำเนินความพยายามหลายอย่างเพื่อยุติความตึงเครียดในเอเชียใต้ โดยสหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือด้านความมั่นคงในปากีสถานไปตั้งแต่ปี 2554 หลังจากที่สหรัฐฯ บุกสังหารอุซามะห์ บินลาดิน และปฏิบัติการโจมตีที่ทำให้ทหารปากีสถานเสียชีวิตถึง 24 คน
อย่างไรก็ตาม การความช่วยเหลือด้านพลเรือน จำนวน 857 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังคงอยู่