เอพี/เอเอฟพี – เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ขึ้นบนถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนสายหนึ่งของเมืองเปชาวาร์ วันนี้ (29 ก.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 37 ราย ทั้งนี้นับเป็นเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในเมืองสำคัญ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานแห่งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ภายในช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ทางการปากีสถานรายงาน
ซอฮิด ข่าน ตำรวจในเปชาวาร์ระบุว่า เหตุระเบิดครั้งล่าสุดนี้ เป็นการใช้ระเบิดรถยนต์คันหนึ่งซึ่งจอดทิ้งไว้แล้วจุดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรล ขณะที่เจ้าหน้าที่ปากีสถานหลายรายบอกว่า มันปะทุขึ้นในตลาดกิสซอคาวานี ที่มีผู้คนพลุกพล่านและเก่าแก่ที่สุดของเมือง ใกล้กับมัสยิดและสถานีตำรวจ
แรงระเบิดสร้างความเสียหายให้มัสยิดและบรรดาร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียง อีกทั้งทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ยานพาหนะหลายคัน นาวาซ ข่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจให้รายละเอียด
ขณะที่นายแพทย์อาร์ชาด จาวาอิด เจ้าหน้าที่อาวุโสของโรงพยาบาลเลดีเรดดิงแถลงยืนยันว่า มีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 37 ราย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 103 คน
เหตุโจมตีทั้ง 3 ครั้งซึ่งเกิดขึ้นในเปชาวาร์ เมืองหลวงของแคว้นไคเบอร์ปัคตุนควา ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 140 ราย โดยเริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์ที่แล้ว (22) เมื่อมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คนระเบิดตัวเอง ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังเข้าร่วมพิธีมิสซาในโบสถ์แห่งหนึ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 85 ราย
ต่อมาในวันศุกร์ (27) มีประชาชน 19 คนเสียชีวิตที่แถบชานเมืองเปชาวาร์ เมื่อคนร้ายลอบวางระเบิดรถบัสขนส่งลูกจ้างรัฐ ซึ่งกำลังเดินทางกลับบ้านในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นวันนี้ (29) อยู่ห่างจากโบสถ์ “ออลเซนต์เชิร์ช” สถานที่เกิดเหตุสังหารหมู่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (22) ไปเพียง 300 เมตร
ตึกเก่าหลายหลังในตลาดกิสซอคาวานีทำด้วยไม้ ที่ติดไฟง่ายเมื่อเกิดเหตุระเบิดขึ้น ชัฟคาต มาลิก ตำรวจอาวุโสระบุ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบในก่อการร้ายครั้งนี้ แต่ดูเหมือนผู้คนจะโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มตอลิบานในปากีสถาน “เตห์รีก – อี – ตอลิบาน” และพวกเครือข่าย ทั้งนี้กลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวเป็นกลุ่มกบฏ ที่กบดานอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน เป้าหมายของพวกเขาคือการโค่นล้มรัฐบาล และก่อตั้งรัฐอิสลามแนวทางแข็งกร้าวขึ้นทั่วปากีสถาน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนาวาซ ชารีฟแถลงว่า ต้องการเจรจากับกบฏกลุ่มนี้ เพื่อยุติเหตุการณ์นองเลือด แต่จนกระทั่งบัดนี้ความพยายามนั้นก็แทบจะไม่คืบหน้าไปไหน และเหตุโจมตีเหมือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ยังคงปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวานนี้ (28) โฆษกของกลุ่มเตห์รีก – อี – ตอลิบานออกมากล่าววิจารณ์ชารีฟว่า การที่ชารีฟบอกให้กลุ่มกบฏวางอาวุธและเคารพในรัฐธรรมนูญนั้นชี้ให้เห็นว่า ผู้นำประเทศคนใหม่ไม่ได้ต้องการเจรจาสันติภาพอย่างจริงจัง โดยก่อนหน้านี้ชารีฟไม่เคยกำหนดเงื่อนไขก่อนเปิดการเจรจา
โฆษกผู้นี้กล่าวว่า “นายกฯ นาวาซ ชารีฟ แสดงให้เห็นว่า เขากำลังทำตามนโยบายของสหรัฐฯ และบรรดาชาติพันธมิตรของอเมริกา ด้วยการบอกให้เราวางอาวุธและเคารพรัฐธรรมนูญ เราจะร่วมเจรจากับ (รัฐบาล) ก็ต่อเมื่อพวกเขามีอำนาจในการตัดสินใจที่แท้จริง”