สื่อดังเมืองเบียร์แฉ เตหะราน-ดามัสกัสทำข้อตกลงลับทางทหาร เปิดทางเครื่องบินรบซีเรียใช้อิหร่านเป็นฐาน

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - “แดร์ ชปีเกิล” นิตยสารข่าวชื่อดังแห่งเมืองเบียร์ รายงานในวันอาทิตย์ (6) โดยอ้างหน่วยข่าวกรองเยอรมนี ระบุอิหร่านและซีเรียแอบทำข้อตกลงลับระหว่างกันเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียสามารถใช้แผ่นดินอิหร่านเป็นฐานสำหรับเครื่องบินขับไล่ของซีเรียได้

แดร์ ชปีเกิลระบุว่า ได้รับรายงานลับจากหน่วยข่าวกรองของเยอรมนีที่ระบุว่า รัฐบาลซีเรียและอิหร่าน ได้ทำข้อตกลงลับต่อกันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยข้อตกลงลับระหว่างดามัสกัสและเตหะรานดังกล่าว มีสาระสำคัญคือการที่อิหร่านจะยอมให้ซีเรียใช้แผ่นดินอิหร่านเป็นฐานสำหรับเครื่องบินขับไล่ซีเรีย และยินยอมให้เครื่องบินรบซีเรียใช้น่านฟ้าอิหร่านได้เมื่อจำเป็น

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นความตกลงด้านความมั่นคงเพิ่มเติมระหว่างทั้งสองประเทศ หลังจากเคยมีการทำข้อตกลงที่ระบุว่า กองกำลัง “Revolutionary Guards” ของอิหร่านจะส่งสมาชิกของตนเข้าไปช่วยรัฐบาลซีเรียต่อสู้กับฝ่ายกบฏ

ก่อนหน้านี้ แดร์ ชปีเกิล ออนไลน์เพิ่งเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด โดยผู้นำซีเรียยืนยันผ่านสื่อดังเมืองเบียร์ว่าเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีโจมตีย่านชานกรุงดามัสกัสจนมีผู้เสียชีวิตนับพันคน

ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียยังยืนกรานจะไม่ยอมเจรจากับฝ่ายกบฏ จนกว่าจะมีการวางอาวุธ พร้อมเผยกำลังตัดสินใจว่าตัวเขาจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปีหน้าหรือไม่

ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อดังของเยอรมนี อัสซาด ระบุว่า เขาไม่เชื่อว่าจะมีความเป็นไปได้ใดๆ ที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งในซีเรียผ่านกระบวนการเจรจากับฝ่ายกบฏ ตราบใดที่พวกที่ต่อต้านรัฐบาลยังไม่ยอมวางอาวุธและรัฐบาลของเขาพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องประเทศชาติจากภัยคุกคามของพวก “ผู้ก่อการร้ายที่ได้รับการหนุนหลังจากต่างชาติ”

อัสซาด วัย 48 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจต่อจากบิดาเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2000 ระบุว่า ตัวเขาไม่รู้สึกกังวลต่อชะตากรรมของตัวเองแม้แต่น้อย เนื่องจากยังมั่นใจว่าประชาชนชาวซีเรียส่วนใหญ่ยังคงให้การสนับสนุนต่อตัวเขา และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาและครอบครัวจึงยังคงพักอยู่ในกรุงดามัสกัสตลอดระยะเวลา 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ผู้นำซีเรียเผยว่า เขากำลังพิจารณาว่าจะลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยหรือไม่ หลังจากที่วาระการดำรงตำแหน่งในสมัยนี้ของเขาจะสิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคมปีหน้า

ทั้งนี้ ความขัดแย้งในซีเรีย ที่เริ่มต้นขึ้นจากการเดินขบวนประท้วงอย่างสันติ ของประชาชนกลุ่มหนึ่ง เมื่อมีนาคมปี 2011 ได้ลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 100,000 คน ขณะที่อีกหลายล้านคนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย