รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ซัยเอ็ด ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มนักรบชีอะห์ “ฮิซบอลเลาะห์” ในเลบานอน ออกโรงปฏิเสธในวันจันทร์ (23) โดยยืนยันว่ากลุ่มติดอาวุธของเขาไม่เคยได้รับอาวุธเคมีใดๆ จากพันธมิตรอย่างรัฐบาลซีเรีย
“ข้อกล่าวหานี้ช่างเป็นเรื่องน่าขันยิ่งนัก เราเข้าใจดีถึงมิติและเบื้องหลังของข้อกล่าวหาเหล่านี้ และเราก็ตระหนักดีถึงผลกระทบของมัน ที่อาจนำมาซึ่งอันตรายร้ายแรงต่อเลบานอนแต่เราขอปฏิเสธข้อกล่าวหาซึ่งเลื่อนลอยนี้อย่างสิ้นเชิง” ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กล่าวระหว่างการแสดงสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์
ซัยเอ็ด ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ยังระบุว่า ในความเป็นจริงแล้วทางกลุ่มของตนปรารถนาจะเห็นวิกฤตในซีเรียได้รับการแก้ไขด้วยกระบวนการทางการเมืองมากกว่าการทำสงคราม
นัสรัลเลาะห์ยังเรียกร้องบรรดาชาติที่เป็นแกนนำของพวกมุสลิมนิกายสุหนี่อย่างซาอุดีอาระเบียและตุรกี ตลอดจนชาติอาหรับที่มั่งคั่งแถบอ่าวเปอร์เซีย ที่ประกาศตัวสนับสนุนฝ่ายกบฏในซีเรียอย่างออกนอกหน้า ให้เร่ง “ทบทวนจุดยืน” ของตนเสียใหม่ว่า คุ้มค่าแล้วหรือไม่ที่ต้องเอาชีวิตของประชาชนชาวซีเรียมาเสี่ยง เพียงเพื่อแลกกับการกำจัดรัฐบาลของบาชาร์ อัล-อัสซาดที่เป็นฝ่ายชีอะห์
“มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่ชาติมุสลิมสุหนี่บางชาติพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นล้มรัฐบาลชีอะห์ในซีเรีย โดยไม่สนใจว่าประชาชนนับล้านในซีเรียจะประสบชะตากรรมเช่นใด” นัสรัลเลาะห์กล่าว
ท่าทีล่าสุดของผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ วัย 53 ปี มีขึ้นหลังจากที่สมาชิกกลุ่มเคลื่อนไหว “Syrian National Coalition” ที่มีจุดยืนเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรียออกมากล่าวหาว่าผู้นำซีเรียได้แอบเคลื่อนย้ายอาวุธเคมีของตนไปให้กับพันธมิตรสำคัญอย่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของนานาชาติ หลังจากที่อัสซาดจำใจต้องเห็นชอบต่อข้อเสนอของรัสเซียที่ให้รัฐบาลดามัสกัสสละการครอบครองอาวุธเคมี และส่งมอบอาวุธร้ายแรงชนิดนี้ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ เพื่อแลกกับการที่ซีเรียไม่ต้องเผชิญการโจมตีจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร
ขณะเดียวกัน การออกโรงปฏิเสธเรื่องอาวุธเคมีของผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ยังสอดคล้องกับข้อมูลของพลตรี ยาอีร์ โกลัน ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนของอิสราเอลด้านที่ติดต่อกับซีเรียที่ออกมาระบุว่า สิ่งที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องการจากรัฐบาลซีเรีย เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ทางกลุ่มฯส่งนักรบของตนเข้าช่วยรัฐบาลซีเรียต่อสู้กับฝ่ายกบฏนั้น คือ จรวดแบบพื้นสู่พื้น, ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานและขีปนาวุธต่อต้านเรือรบเท่านั้น หาใช่ต้องการครอบครองอาวุธเคมีของรัฐบาลดามัสกัสแต่อย่างใด
ทั้งนี้ รัฐบาลซีเรียตัดสินใจยอมส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเคมีของตนไปให้กับหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงเตรียมสละการครอบครองอาวุธเคมีทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข หลังชาติ “มหามิตร” อย่างรัสเซียยื่นมือเข้ามาเสนอแนวทางดังกล่าว เพื่อช่วยปกป้องซีเรียจากการโจมตีของสหรัฐฯ ที่กล่าวหาว่า รัฐบาลอัสซาดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีโจมตีที่ย่านชานกรุงดามัสกัสเมื่อปลายเดือนสิงหาคม จนมีผู้เสียชีวิตนับพันคน
