เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในรัสเซีย ชี้ ประชาชนในแดนหมีขาวมีความรู้สึกในแง่ลบต่อสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 4 ปีที่มุมมองของชาวรัสเซียต่อสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่ย่ำแย่และเลวร้ายมากที่สุด
ผลสำรวจที่จัดทำโดยศูนย์วิจัยความคิดเห็นสาธารณะแห่งชาติ (VTsIOM) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลมอสโก ระบุว่า 35 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียจำนวน 1,600 คน จาก 42 เขตทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมการตอบแบบสอบถามระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคมที่ผ่านมา มีความรู้สึกที่ “ย่ำแย่” หรือ “ย่ำแย่มาก” ต่อสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นจากระดับ 30 เปอร์เซ็นต์ที่มีการสำรวจครั้งก่อนในเดือนกุมภาพันธ์
ผลสำรวจที่พบว่า ชาวรัสเซียถึง 35 เปอร์เซ็นต์มีมุมมองและความรู้สึกในแง่ลบต่อสหรัฐฯล่าสุดนั้น ยังถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบมากกว่า 4 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่า ในเวลานี้ ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯในสายตาของชาวรัสเซียกำลังตกต่ำจนถึงขีดสุด
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจที่ออกมาพบว่า ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในเขตชนบท และเมืองขนาดเล็ก ดูจะเป็นกลุ่มคนที่มีมุมมองติดลบมากที่สุดต่อสหรัฐฯ และมักเป็นกลุ่มประชากรรัสเซียที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป สวนทางกับกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียที่อาศัยตามเมืองใหญ่ และกลุ่มคนหนุ่มสาวที่มีสัดส่วนของมุมมองเชิงลบต่อสหรัฐฯที่น้อยกว่า
ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาวรัสเซียมีมุมมองต่อสหรัฐฯในระดับที่เลวร้ายที่สุดในรอบมากกว่า 4 ปีมาจากความพยายามอย่างออกนอกหน้าของรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีผิวสี บารัค โอบามา ที่ต้องการใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีซีเรีย โดยกล่าวหาว่า รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมี โจมตีพื้นที่แถบชานกรุงดามัสกัสจนมีผู้เสียชีวิตที่ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนมากกว่า 1,400 คน ทั้งๆ ที่ข้อมูลข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของฝ่ายกบฏในซีเรียที่รัฐบาลโอบามาหนุนหลัง มิใช่ฝีมือของระบอบอัสซาดที่เป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลมอสโกมาช้านาน