เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่ทำในรัสเซียระบุว่า ชาวหมีขาวยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันต่อประเด็นที่ว่ารัฐบาลรัสเซียควรเข้าไปแทรกแซงต่อสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานเกินกว่า 2 ปีในซีเรียหรือไม่
ผลสำรวจที่จัดทำโดย “พับลิก โอพิเนียน ฟาวเดชั่น” และมีการเผยแพร่ที่กรุงมอสโกในวันอังคาร (10) ระบุ 32 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างในรัสเซียเห็นว่า รัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ควรยื่นมือเข้าไปมีบทบาทต่อความขัดแย้งในซีเรีย
ส่วนอีก 35 เปอร์เซ็นต์เห็นว่า รัสเซียไม่ควรเข้าไปยุ่งกับวิกฤตซีเรีย ขณะที่อีก 19 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าไม่แน่ใจว่ารัสเซียควรแทรกแซงความขัดแย้งในชาติพันธมิตรอย่างซีเรียหรือไม่
นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียอีก 14 เปอร์เซ็นต์ที่ระบุว่า พวกเขา “ไม่ได้ติดตาม”ข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย ดังนั้นจึงไม่มีความเห็นใดๆ ว่า รัฐบาลรัสเซียควรแทรกแซงวิกฤตในซีเรียหรือไม่
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจล่าสุดยังพบว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียระบุว่า พวกตนไม่สนับสนุนฝ่ายใดเลยในการทำสงครามกลางเมืองซีเรียไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายกบฏ รองลงมาคือ 28 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า พวกตนเอาใจช่วยรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดให้เป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ระบุว่าเอาใจช่วยฝ่ายกบฏ
ในอีกด้านหนึ่ง เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียออกมาเปิดเผยในวันอังคาร (10) ว่า รัสเซียกำลังเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับการส่งมอบการดูแลอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียให้อยู่ในการควบคุมของนานาชาติ เพื่อช่วยให้ชาติพันธมิตรที่สำคัญในตะวันออกกลางอย่างซีเรียไม่ต้องถูกโจมตีจากปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรที่กล่าวหาว่ารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีต่อประชาชนชาวซีเรียที่ย่านชานกรุงดามัสกัสเมื่อ 21 สิงหาคมจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 ราย