เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ เผยในวันเสาร์ (14) รู้สึกยินดีต่อการบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่นครเจนีวา ระหว่างรัฐบาลมอสโกและวอชิงตัน ต่อประเด็นอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรีย
โอบามากล่าวในคำแถลงโดยระบุว่า ข้อตกลงที่เกิดขึ้นจากการหารือนานกว่า 3 วันในสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียนั้น ถือเป็น “ก้าวย่างที่สำคัญ” ที่จะนำอาวุธเคมีทั้งหมดในซีเรียเข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ ก่อนจะมีการทำลายทิ้งในช่วงกลางปีหน้า
“ข้าพเจ้ามีความยินดีต่อความก้าวหน้าล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ระหว่างการหารือของเราที่เจนีวา ซึ่งเป็นก้าวย่างที่สำคัญยิ่งที่จะนำไปสู่การกำจัดภัยคุกคามจากอาวุธเคมีในซีเรียให้หมดสิ้นไป” โอบามากล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้นำสหรัฐฯ วัย 52 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามเดินหน้าแผนการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อรัฐบาลซีเรีย ยังคงยืนยันว่าประชาคมระหว่างประเทศคาดหวังว่าระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด จะปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้แก่นานาชาติในเรื่องการสละอาวุธเคมีในครอบครอง และจะต้องเผชิญการลงโทษที่สาหัสหากไม่ปฏิบัติตาม
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯขู่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย โดยอ้างว่ารัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีในการโจมตีพื้นที่แถบชานกรุงดามัสกัสเมื่อปลายเดือนที่แล้วเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนับพันคน ขณะที่ความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2011 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 100,000 คนตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)