เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน แห่งอินโดนีเซีย ผู้นำชาติมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดของโลกส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำอีก 4 ชาติในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันอังคาร (10) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารใดๆ ต่อซีเรีย
รายงานข่าวจากกรุงจาการ์ตายืนยันว่า ประธานาธิบดียุโธโยโน วัย 63 ปีซึ่งครองอำนาจในฐานะผู้นำแดนอิเหนา ประเทศมุสลิมใหญ่ที่สุดในโลกมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2004 ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ, ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย, ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนแห่งสหราชอาณาจักร ตลอดจน นายบัน คี มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ชาวเกาหลีใต้
โดยผู้นำอินโดนีเซียเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงฯและยูเอ็น ยึดมั่นในการใช้ “แนวทางสันติ” เพื่อแก้ปัญหาซีเรีย และล้มเลิกความพยายามใดๆที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย
“ผมขอยืนยันว่า ประธานาธิบดีโอบามาและรัฐบาลสหรัฐฯรวมถึงบรรดาชาติพันธมิตร ควรไตร่ตรองการตัดสินใจของพวกเขาที่มุ่งมั่นจะเปิดการโจมตีต่อซีเรียเสียใหม่ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผมเห็นว่า เรายังมีหนทางอื่นๆอีกหลายทางในการจัดการกับความขัดแย้งในซีเรีย นอกเหนือจากการก่อสงคราม” ประธานาธิบดียุโธโยโนกล่าวที่กรุงจาการ์ตา หลังเพิ่งเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ท่าทีล่าสุดของผู้นำอินโดนีเซียมีขึ้นหลังจาก ตลอดระยะเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ดำเนินความพยายามอย่างหนักในการโน้มน้าวให้ประชาคมโลกเห็นพ้องกับสหรัฐฯ ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีสั่งสอนรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด หลังจากทางการสหรัฐฯอ้างข้อมูลของตัวเองว่ารัฐบาลซีเรียอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีโจมตีย่านชานกรุงดามัสกัสเมื่อเดือนที่แล้ว จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน