เอเจนซีส์ - ซีเรียทำท่าจะรอดพ้นการถูก “สั่งสอน” ด้วยการปฏิบัติการทางทหาร ภายหลังจากในวันอังคาร (10 ก.ย.) ได้ประกาศยอมรับอย่างเป็นทางการต่อข้อเสนอริเริ่มของรัสเซีย ซึ่งกำหนดให้ดามัสกัสส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดที่มีอยู่ต่อนานาชาติ โดยที่ทางเลือกใหม่ดังกล่าวนี้ได้รับการยกย่องชมเชยจากฝ่ายต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯซึ่งแสดงการสนับสนุนอย่างระแวดระวัง ขณะเดียวกันฝรั่งเศสก็เตรียมยื่นญัตติต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น เรียกร้องซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีให้นานาชาติ รวมทั้งส่งตัวผู้รับผิดชอบโจมตีชานเมืองดามัสกัสปลายเดือนที่แล้ว ให้ศาลอาญาระหว่างประเทศพิจารณาความผิด
ลอรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสแถลงในวันอังคารว่า ญัตติที่จะยื่นต่อคณะมนตรีความมั่นคงในวันเดียวกันนั้น จะเรียกร้องให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย เปิดเผยขนาดของโครงการอาวุธเคมี และส่งมอบหัวรบให้นานาชาติทันที เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิบัติการทางทหารซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติที่ 7 ของกฎบัตรยูเอ็น
ญัตตินี้ยังเรียกร้องให้นำตัวผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีพื้นที่นอกกรุงดามัสกัสด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 เดือนที่ผ่านมา เข้ารับการพิจารณาคดีภายใต้ศาลอาญาระหว่างประเทศ
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่ในวันจันทร์ (9ก.ย.) เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเสนอต่อวาลิด อัล-มูอัลเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียที่ไปเยือนกรุงมอสโก ให้ดามัสกัสส่งมอบอาวุธเคมีให้นานาชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีด้วยปฏิบัติการทางทหารจากสหรัฐฯ และฝรั่งเศส แล้วมูอัลเลมบอกว่ายินดีต้อนรับข้อเสนอนี้
ต่อมาในวันอังคาร ลาฟรอฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า กำลังร่วมกับซีเรียร่างแผนการที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมสำหรับข้อเสนอดังกล่าวและคาดว่า จะลุล่วงเร็วๆ นี้ รวมทั้งพร้อมสานต่อแผนการนี้กับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติและองค์การห้ามอาวุธเคมี และเปิดให้สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคง เข้าร่วมด้วย
จากนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียแถลงว่า ดามัสกัสตกลงตามข้อเสนอริเริ่มของมอสโกในเรื่องอาวุธเคมีแล้ว ด้วยความเชื่อมั่นว่าความพยายามเช่นนี้ของรัสเซียจะสามารถ “ถอนเก้าอี้ที่อยู่ใต้ขาแห่งการก้าวร้าวรุกรานของอเมริกาได้” ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักข่าวอิตาร์-ทาสส์ของแดนหมีขาว
ข้อเสนอของลาฟรอฟในวันจันทร์ ตัวเขาเองระบุว่าเป็นการสานต่อจากท่าทีของ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯที่ไปตอบคำถามผู้สื่อข่าวในกรุงลอนดอนก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันว่า อัสซาดจะสามารถหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี ถ้ายอมส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้แก่นานาชาติภายในเวลา 1 สัปดาห์ และหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียประกาศแนวทางเลือกใหม่นี้ออกมาแล้ว ปรากฏว่าเป็นที่ต้อนรับจากฝ่ายต่างๆ ทั่วโลก
แม้กระทั่งประธานาธิบดีโอบามา ที่ยังคงเดินหน้าระดมเสียงสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารจากทั้งในและนอกประเทศ ก็กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอเมริกันหลายเจ้าว่า แนวคิดดังกล่าว “สามารถที่จะเป็นการผ่าทางตันที่สำคัญ” หากปฏิบัติได้จริง และถึงแม้เขายืนกรานว่ายังไม่ได้ถอนทางเลือกในการใช้การโจมตีทางทหารออกไป แต่ก็เห็นด้วยว่าควรที่จะพิจารณาการริเริ่มจากฝ่ายรัสเซียนี้ ซึ่งในทางพฤตินัยก็คือการตกลงชะลอแผนการโจมตีซีเรียออกไปก่อน
โอบามายังยอมรับว่า ไม่มั่นใจว่าจะได้เสียงสนับสนุนในรัฐสภาเพียงพอหรือไม่ และว่า สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯก็จะยังไม่ลงมติเกี่ยวกับปฏิบัติการต่อซีเรียเร็วๆ นี้ โดยล่าสุด แฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากของเดโมแครตในวุฒิสภา ตัดสินใจเลื่อนการโหวตร่างมติให้อำนาจโอบามาในการเปิดการโจมตีสั่งสอนซีเรียออกไป จนกว่าจะได้รับฟังการปราศรัยทางทีวีของโอบามาในช่วงไพรม์ไทม์ คืนวันอังคาร
เช่นเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ได้ขานรับข้อเสนอของรัสเซีย แต่พร้อมกันนี้ยังแสดงความกังวลว่า อาจเป็นเพียงเทคนิคการเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น
อังเกลา แมร์เคล ผู้นำเยอรมนีแสดงความเห็นว่า ข้อเสนอของวังเครมลินน่าสนใจและหวังว่าจะพัฒนาเป็นแผนการจริงโดยเร็ว ไม่ได้เป็นแค่การซื้อเวลาเท่านั้น
ส่วนจีนที่ร่วมกับรัสเซียปกป้องซีเรียโดยขัดขวางมติลงโทษของคณะมนตรีความมั่นคงมาหลายครั้งแล้ว ประกาศสนับสนุนข้อเสนอของมอสโกเต็มที่เช่นเดียวกับอิหร่าน
มีเพียงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่แถลงประณามแนวคิดของรัสเซียว่า เป็นความพยายามปกป้องอัสซาด อันจะส่งผลให้ชาวซีเรียต้องล้มหายตายจากเพิ่มขึ้น
วันเดียวกัน กลุ่ม ฮิวแมน ไรต์ วอตช์ ที่มีฐานในอเมริกา ออกคำแถลงระบุว่า หลักฐานที่มีทั้งหมดซึ่งมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากผู้เห็นเหตุการณ์ ชิ้นส่วนอาวุธ และอาการของเหยื่อ บ่งชี้ชัดเจนว่า กองทัพซีเรียเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีโจมตีนอกกรุงดามัสกัสเมื่อปลายเดือนที่แล้ว