xs
xsm
sm
md
lg

มะกันแนะซีเรียส่งมอบอาวุธเคมี หลีกเลี่ยงการโจมตีของวอชิงตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีต่างประเทศจอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ แนะประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย สามารถหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี ถ้ายอมส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่สำทับต่อทันทีว่า คงไม่มีทางเป็นไปได้ ทางด้านมอสโกประสานเสียงดามัสกัส เตือนปฏิบัติการทางทหารของวอชิงตันรังแต่ทำให้ลัทธิก่อการร้ายระบาดทั่วตะวันออกกลาง และดับความหวังในการเจรจาอย่างสันติเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง

วันจันทร์ที่ผ่านมา (9) เคร์รีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในลอนดอนโดยแสดงความมั่นใจว่า วอชิงตันและพันธมิตรมีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาว่า กองทหารของอัสซาดใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนนอกกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 เดือนที่แล้ว

รัฐมนตรีต่างประเทศแดนอินทรีสำทับว่า อาวุธเคมีในซีเรียนั้นควบคุมโดยอัสซาด กับน้องชายที่ชื่อ มาเฮอร์ และนายพลที่ไม่เปิดเผยชื่ออีกคน

คำพูดดังกล่าวเป็นการโต้แย้งการให้สัมภาษณ์ของอัสซาดต่อชาร์ลี โรส ที่ออกอากาศทางสถานีซีบีเอสในอเมริกาช่วงเช้าวันเดียวกันอย่างรุนแรง

ในการให้สัมภาษณ์ ผู้นำซีเรียโจมตีว่า หลักฐานที่เคร์รีนำมาเปิดเผยเกี่ยวกับปริมาณการใช้อาวุธเคมีเป็นการ “โกหกคำโต” เหมือนกับตอนที่คอลิน พาวเวลล์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างกับสหประชาชาติ เมื่อสิบปีที่แล้วเพื่อบุกอิรัก

นอกจากนั้น อัสซาดเตือนว่า วอชิงตันจะต้องเตรียมรับการแก้เผ็ดล้างแค้น หากใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีซีเรีย โดยเขาชี้ว่า ดินแดนตะวันออกกลางนั้นทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่บนริมขอบของการระเบิดตูมตาม และผู้เล่นก็ไม่ได้มีเฉพาะพวกรัฐบาล ยังมีพรรคการเมืองต่างๆ , กลุ่มย่อยทางการเมืองต่างๆ, อุดมการณ์ต่างๆ ดังนั้นสหรัฐฯจะต้องเตรียมรับกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งความเสี่ยงที่จะมีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีจากฝ่ายกบฎหรือ “ผู้ก่อการร้าย”
รัฐมนตรีต่างประเทศจอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ในส่วนของเคร์รีนั้น เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า มีสิ่งใดที่รัฐบาลซีเรียจะสามารถทำได้เพื่อหยุดยั้งการโจมตีของสหรัฐฯ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกันตอบว่า ถ้าอัสซาดส่งอาวุธเคมีทั้งหมดให้นานาชาติภายในสัปดาห์หน้า แต่ตนเชื่อว่า ผู้นำดามัสกัสไม่มีทางทำแบบนั้น

วันเดียวกันในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษที่ลอนดอน เคร์รีกล่าวว่า การนิ่งเฉยไม่ทำอะไรทั้งที่มีหลักฐานยืนยันความผิดของรัฐบาลซีเรีย จะตามหลอกหลอนอเมริกาและพันธมิตร อีกทั้งเป็นการส่งสารแสดงความยินดีต่อกลุ่มก่อการร้ายฮิสบอลเลาะห์และอัสซาด

ขณะเดียวกัน เขาก็ระบุว่า สำหรับการยุติความขัดแย้งในซีเรียนั้น สหรัฐฯเห็นพ้องอย่างเต็มที่ว่าหนทางออกจำเป็นต้องใช้หนทางในทางการเมือง ไม่ใช่หนทางทางทหาร โดยจะต้องมาจากโต๊ะเจรจา ไม่ใช่มาจากสมรภูมิ แต่กุญแจสำคัญที่สุดอยู่ที่การนำเอาทุกๆ ฝ่ายมาพูดจากัน

นอกจากนี้ เคร์รีย้ำว่า สัมพันธภาพระหว่างอังกฤษกับอเมริกายังแน่นแฟ้นเช่นเดิม แม้รัฐสภาอังกฤษออกเสียงคัดค้านการเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียก็ตามที

ทั้งนี้ ภายหลังการหารือกับเฮกแล้ว เคร์รีบินกลับวอชิงตันทันทีเพื่อร่วมกับทีมความมั่นคงทำเนียบขาวที่กำลังเดินสายให้ความมั่นใจกับบรรดาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯว่า อเมริกาไม่ได้กำลังจะเข้าสู่สงครามยืดเยื้อแบบในอิรักหรืออัฟกานิสถาน แต่จะเป็นการโจมตีแบบจำกัด เช่นเดียวกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งมีคิวให้สัมภาษณ์ทางทีวีและพบปะผู้นำในคองเกรส เพื่อโน้มน้าวชาวอเมริกันและรัฐสภาให้เชื่อว่า การโจมตีซีเรียจำเป็นต่อความปลอดภัยระยะยาวของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ คาดว่าคองเกรสจะลงมติครั้งแรกในวันพุธ (11) โดยผลสำรวจของสำนักข่าวเอพีระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ กว่า 6 ต่อ 1 คัดค้านหรือมีแนวโน้มคัดค้านปฏิบัติการโจมตีซีเรียของโอบามา

ส่วนที่กรุงมอสโก เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวภายหลังหารือกับวาลิด อัล-มูอัลเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียซึ่งไปเยือนว่า การโจมตีทางทหารต่อซีเรียอาจทำให้ลัทธิก่อการร้ายแพร่กระจายทั่วตะวันออกกลาง อีกทั้งยังทำให้มีผู้ลี้ภัยเพิ่มมากขึ้น เขาย้ำว่าดามัสกัสนั้นพร้อมเจรจาหาข้อยุติความขัดแย้ง

ก่อนหน้านี้ รัสเซียและอเมริกาเคยตกลงกันในเดือนพฤษภาคมว่า จะจัดการประชุมสันติภาพนานาชาติในนครเจนีวาเพื่อนำคู่กรณีทั้งหมดในวิกฤตซีเรียมาร่วมหาทางออก ทว่า เรื่องนี้ยังห่างไกลความเป็นจริง เมื่อวอชิงตันโยนแนวคิดดังกล่าวทิ้งไป ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างมอสโกกับวอชิงตันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ด้านมูอัลเลมขานรับว่า ซีเรียพร้อมร่วมประชุมที่เจนีวาโดยปราศจากเงื่อนไขเพื่อฟื้นฟูสันติภาพภายในประเทศ แต่เตือนว่า จุดยืนนี้อาจเปลี่ยนไปหากมีการโจมตีเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น