เอเอฟพี/เอเจนซี - เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันจันทร์(9) เรียกร้องรัฐบาลซีเรีย ส่งมอบการควบคุมคลังอาวุธเคมีแก่ผู้สังเกตการณ์นานาชาติในแนวทางขจัดคำขู่ใช้ปฏิบัติการทางทหารของชาติตะวันตก ข้อเสนอที่ทางดามัสกัส ตอบรับด้วยความยินดี พร้อมยกย่องมอสโกต่อความพยายามแสวงหาหนทางป้องกันการรุกรานของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามฝ่ายกบฏไม่เล่นด้วย จวกเป็นการจัดฉากของรัสเซีย ขณะที่ทางอเมริกาก็คลางแคลงใจต่อความน่าเชื่อถือของแนวคิดนี้
หลังจากพูดคุยกับนายวาลิด อัล-มูอัลเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียในกรุงมอสโก นายลาฟรอฟ เรียกร้องซีเรียยอมให้คลังอาวุธเคมีอยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติเพื่อจะได้นำไปทำลายต่อไป โดยเขาบอกว่าแผนการนี้จะช่วยให้ดามัสกัส หลีกเลี่ยงการถูกโจมตีจากสหรัฐฯและชาติพันธมิตร ที่กำลังพิจารณาใช้ปฏิบัติการทางทหารกับพวกเขา ทั้งนี้นายลาฟรอฟ เผยว่าได้ยื่นข้อเสนอนี้แก่นายมูอัลเลมไปแล้วและหวังว่าได้รับคำตอบอย่างรวดเร็วและเป็นบวกจากฝั่งซีเรีย
"เราไม่รู้ว่าซีเรียจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่ แต่ถ้าการยอมให้อาวุธเคมีอยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติช่วยหลีกเลี่ยงการโจมตี เราก็จะลงมือทำงานในเรื่องนี้ทันที" นายลาฟรอฟแถลงกับผู้สื่อข่าวสั่นๆในกรุงมอสโก พร้อมบอกว่านอกจากส่งมอบอาวุธเพื่อนำไปทำลายแล้ว ทางซีเรียเองก็ควรเข้าเป็นสมาชิกขององค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี (OPCW)เต็มตัวด้วย
ทางฝั่งของซีเรีย ก็แสดงท่าทีขานรับในด้านบวก โดยนายอัล-มูอัลเลม กล่าวยินดีต่อข้อเสนอมอบอาวุธเคมีให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ พร้อมยกย่องมอสโกต่อความพยายามแสวงหาหนทางป้องกันการรุกรานของสหรัฐฯ ทั้งนี้เขาแถลงกับผู้สื่อข่าวผ่านล่ามบอกอย่างชัดแจ้งว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว
"ผมขอย้ำว่าสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย ยินดีต่อความคิดริเริ่มของรัสเซีย อันมีแรงกระตุ้นจากการที่ผู้นำซีเรียตระหนักถึงชีวิตพลเรือนและความมั่นคงของประเทศ และมันยังมีแรงจูงใจจากความเชื่อมั่นของเราที่มีต่อความสุขุมรอบคอบของผู้นำรัสเซีย ซึ่งกำลังพยายามขัดขวางการรุกรานของสหรัฐฯต่อประชาชนของเรา" เขากล่าว
ข้อเสนอของรัสเซีย มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(9) นายจอห์น เแคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แนะว่าแนะประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย สามารถหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีได้ ถ้ายอมส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดแก่ประชาคมนานาชาติ
รัสเซีย แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนไม่เชื่อว่านายอัดซาดอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม แต่ทางสหรัฐฯและชาติพันธมิตรชี้ว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของฝ่ายรัฐบาล ขณะที่การเยือนมอสโกของนายมูอัลเลม มีขึ้นขณะที่ส.ส.และวุฒิสภาอเมริกามีกำหนดกลับจากวันหยุดพักผ่อนคืนสู่สภาคองเกรสอีกครั้งในวันจันทร์(9) เพื่อเปิดอภิปรายเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารอย่างจำกัดต่อซีเรีย
ในส่วนของอังกฤษ พันธมิตรเหนียวแน่นของสหรัฐฯ ที่ถูกรัฐสภาลงมติคัดค้านใช้ปฏืบัติการทางทหารในซีเรีย ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว โดยนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีกล่าวในวันจันทร์(9) ยินดีต่อข้อเสนอของรัสเซียที่มองว่าเป็นก้าวย่างอันสำคัญ "หากมันเป็นกรณีนี้ก็จะยินดีเป็นอย่างยิ่ง" คาเมรอนบอกกับรัฐสภา" ถ้าซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีนอกเหนือจากที่ใช้แล้วให้อยู่ภายใต้การตรวจตราของนานาชาติ ชัดเจนว่ามันเป็นก้าวย่างที่สำคัญและควรสนับสนุน"
อย่างไรก็ตามข้อเสนอของรัสเซีย กลับสร้างความไม่พอใจแก่แกนนำระดับอาวุโสของฝ่ายกบฏ ที่กล่าวหามอสโก โป้ปดมดเท็จที่เสนอให้รัฐบาลนายอัสซาดส่งมอบอาวุธเคมีแก่นานาชาติ "เราเรียกร้องสำหรับการโจมตี และเตือนประชาคมนานาชาติว่ารัฐบาลนายอัสซาดกำลังโป้ปดโดยมีนักหลอกลวงตัวยงอย่างปูติน(ประธานาธิบดีวลาดิมีร์แห่งรัสเซีย) เป็นครู ปูตินเป็นพวกโกหกตัวพ่อ" นายเซลิม ไอดริส ผู้บัญชาการกองทัพกองกำลังซีเรียเสรีบอกกับสำนักข่าวอัลจาซีราห์
ด้านสหรัฐฯในวันจันทร์(16) ก็บอกว่าจะจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อแผนของรัสเซียที่ขอให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมี แต่อีกด้านหนึ่งก็แสดงความเคลือบแคลงสงสัยต่อความน่าเชื่อถือของแนวคิดนี้ "เราจะจับตามองพัฒนาการใหม่นี้ เราจะจับตามองมันอย่างใกล้ชิด" แมรี ฮาร์ฟ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุ
กระนั้นก็ตามเธอเตือนว่า "แน่นอนว่า เราไม่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นแค่อีกหนึ่งแท็คติกเหนี่ยวรั้ง นานหลายเดือนและหลายปีมาแล้วที่รัสเซียยืดหยัดอยู่ข้างรัฐบาลซีเรียทั้งที่สหประชาชาติและประชาคมนานาชาติ"
ส่วน เบน โรดส์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับเอ็มเอสเอ็นบีซีว่าวอชิงตันจะไม่คลายความกดดันจากดามัสกัส แม้มีข้อเสนอมาจากรัสเซีย "ผมคิดว่าเราก็แค่คอยติดตามเรื่องนี้และร่วมกับประเทศอื่นๆประเมินความจริงจังของข้อเสนอดังกล่าว แต่ในเวลาเดียวกันสิ่งสำคัญก็คือเราต้องไม่เพลาแรงกดดันที่มีต่อพวกเขา"
