เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลซีเรียส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับหัวรบอาวุธเคมีในครอบครอง ให้แก่องค์กรว่าด้วยการห้ามการใช้อาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้ว และถือเป็นการส่งมอบข้อมูลทันกำหนดเส้นตายในวันเสาร์ (21)
องค์กรโอพีซีดับเบิลยู ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ ยืนยันว่า ได้รับเอกสารแสดงข้อมูลที่คาดว่าน่าจะเป็นฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับอาวุธเคมีในความครอบครองของรัฐบาลดามัสกัสแล้ว และความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นราว 1 วันหลังจากองค์กรแห่งนี้ออกมาเปิดเผยว่า เริ่มทยอยได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องบางส่วนจากรัฐบาลซีเรีย
อาเหม็ต อูซูมกู ผู้อำนวยการใหญ่ชาวตุรกีของโอพีซีดับเบิลยู ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นกงสุลตุรกี ประจำเมืองอะเลปโปในซีเรียมาก่อน ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากนี้ ทางองค์กรของตนจะเร่งตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ตัดสินใจส่งมอบการควบคุมอาวุธเคมีของตนให้กับนานาชาติ หลังเกิดเหตุโจมตีด้วยแก๊สพิษซารินที่ย่านชานกรุงดามัสกัสเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการโจมตีด้วยอาวุธเคมีที่ร้ายแรงที่สุดในโลกในรอบ 25 ปี
รัฐบาลสหรัฐฯอ้างว่ากองกำลังของอัสซาดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 1,400 คน ขณะที่รัฐบาลซีเรีย รวมถึงพันธมิตรอย่างรัสเซียต่างยืนยันว่า ฝ่ายกบฏในซีเรียต่างหากที่เป็นผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว
ทั้งนี้ กำหนดเส้นตายในวันเสาร์ (21) ในการที่รัฐบาลซีเรียต้องส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเคมีของตนแก่นานาชาตินั้น ถูกกำหนดจากข้อตกลงระหว่างการหารือของนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อกว่าสัปดาห์มาแล้ว
โดยเส้นตายดังกล่าวระบุว่า หากรัฐบาลดามัสกัสบิดพลิ้วไม่ส่งมอบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับอาวุธเคมีในครอบครองของตนภายในกรอบเวลาที่กำหนดก็จะต้องเผชิญมาตรการลงโทษจากนานาชาติ ซึ่งรวมถึงการใช้ปฏิบัติการทางทหารจากสหรัฐฯและชาติพันธมิตร
ข่าวการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียให้กับองค์กรโอพีซีดับเบิลยูมีขึ้นในขณะเดียวกับที่เซอร์เก อิวานอฟ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ออกมาแถลงว่า รัฐบาลมอสโกอาจตัดสินใจยุติการสนับสนุนรัฐบาลซีเรียของบาชาร์ อัล-อัสซาด หากระบอบการปกครองของอัสซาดบิดพลิ้วไม่ปฏิบัติตามคำมั่นในเรื่องการสละอาวุธเคมีในครอบครองและน้อมรับการตรวจสอบจากประชาคมโลก
“ถ้าเรามั่นใจว่า อัสซาดกำลังบิดพลิ้ว รัฐบาลของเราก็จะเปลี่ยนจุดยืนที่มีต่อรัฐบาลซีเรียในทันที” อิวานอฟกล่าว พร้อมเผยว่า รัสเซียอาจต้องใช้เวลาอีกราว 2-3 เดือนในการประเมินว่า ต้องใช้เวลามากน้อยเพียงใด ในการกำจัดอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรีย ซึ่งตามข้อตกลงระหว่างเคร์รีกับลาฟรอฟระบุว่า การทำลายอาวุธร้ายแรงดังกล่าว จะเสร็จสิ้นภายในกลางปีหน้า