เอเจนซีส์ – วัดฮินดูในแดนภารตะไม่ยินดีที่จะเผย “คลังทองคำ” ในครอบครอง หวั่นถูกรัฐบาลอินเดียดึงไปโปะบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลมหาศาล เนื่องจากมูลค่าสินค้านำเข้าฟุ่มเฟือยที่ยังสูงลิบลิ่ว
สมาคมชาวฮินดูออกมาคัดค้านแผนของธนาคารกลางแห่งอินเดีย (Reserve Bank of India – RBI) ซึ่งได้ส่งจดหมายไปยังวัดฮินดูบางแห่งเพื่อขอให้แจ้งปริมาณทองคำในคลัง แม้ว่าทางธนาคารจะยืนยันว่า เป็นเพียงการ “เก็บข้อมูล” ก็ตามที
“ทองคำของวัดเป็นทรัพย์สินที่ผู้ศรัทธาเต็มใจบริจาคเพื่อทำนุบำรุงศาสนามานานหลายพันปี เราจะไม่ยอมให้ใครมาผลาญมันเด็ดขาด” วี โมหนัน เลขาธิการองค์กร Vishwa Hindu Parishad ในรัฐเกรละ ระบุในถ้อยแถลง
ชาวอินเดียทั่วประเทศซื้อทองคำเฉลี่ยวันละ 2.3 ตัน หนักพอๆกับช้างตัวย่อมๆ ซึ่งหากไม่ถวายเป็นเครื่องบูชาเทพเจ้าก็จะเก็บเป็นสมบัติส่วนตัว เครื่องเพชรและทองคำเหล่านี้จะตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อแปลงเป็นทุนในช่วงที่เงินเฟ้อ หรือใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน
อย่างไรก็ดี พฤติกรรม “สะสมทอง” กำลังสร้างภาระหนักต่อเศรษฐกิจอินเดีย โดยช่วง 1 ปีจนถึงวันที่ 31 มีนาคม ปี 2013 อินเดียนำเข้าทองคำเป็นมูลค่าสูงถึง 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงที่สุดในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อินเดียขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงเป็นประวัติการณ์ในปีงบประมาณ 2012/13
วัดคุรุวายูร์ในรัฐเกรละ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย และมีเสาธงสูง 33.5 เมตรหุ้มด้วยแผ่นทองคำแท้เป็นที่เชิดหน้าชูตา ได้แจ้งไปยัง RBI แล้วว่า จะไม่เปิดเผยรายละเอียดทองคำของวัดโดยเด็ดขาด
“ทองที่เรามีอยู่ส่วนใหญ่ได้มาจากผู้ศรัทธา พวกเขาคงไม่ต้องการให้วัดนำรายละเอียดไปบอกใคร” วี เอ็ม โกปาลา เมนอน หนึ่งในคณะกรรมการบริหารวัดกล่าว
สภาทองคำโลกประเมินว่า วัดวาอารามในอินเดียมี “กรุทองคำ” รวมกันไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัน คิดเป็นตัวเงิน 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามราคาตลาด โดยอยู่ในรูปของเครื่องประดับ, ทองคำแท่ง, เหรียญทอง หรือแม้กระทั่ง “รูปจำลอง” อวัยวะส่วนต่างๆ ซึ่งเจ้าของทองได้นำมาถวายต่อเทพเจ้าเพื่อแสดงความขอบคุณหลังได้รับโชคลาภ หรือหายจากโรคภัยไข้เจ็บ
ปีนี้รัฐบาลอินเดียและ RBI ชูนโยบายลดนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ และดึงทองคำในประเทศออกมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยมีการเพิ่มภาษีนำเข้าเป็น 10% และกฎใหม่ล่าสุดของ RBI ที่กำหนดให้ร้อยละ 20 ของทองคำนำเข้าจะต้องถูกนำไปเป็น “สินค้าส่งออก” ก็สร้างความสับสนต่อผู้บริโภค จนฉุดให้แรงซื้อทองคำลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
วี มุราลีธารัน ประธานพรรค ภารติยะ ชนะตะ (BJP) ซึ่งเป็นพรรคฮินดูชาตินิยมที่มีฐานอยู่ในรัฐเกรละ กล่าวหาว่า RBI ต้องการ “ยึด” ทองคำของวัดไปขาย เพื่อแลกเป็นเงินดอลลาร์
สุภา อุนนิกฤษนัน เจ้าของร้านเสื้อผ้าที่ไปบูชาเทพเจ้า ณ วัดฮินดูแห่งหนึ่งในเมืองตริวันดรัมอยู่เป็นประจำ บอกว่า ของที่ถวายเทพเจ้าไปแล้วไม่ควรมีใครไปยุ่งอีก
“เราเอาทรัพย์สินถวายต่อเทพเจ้าด้วยเจตนาเฉพาะ... ใครจะมาเอาทองเหล่านั้นไปใช้ไม่ได้” เขากล่าว
อย่างไรก็ดี RBI ยังไม่ได้ส่งคำขอตรวจสอบไปยังวัดศรีปัทมนาภะสวามี วัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปีในเมืองตริวันดรัมที่มีการขุดพบเหรียญทองคำและอัญมณีในกรุใต้ดินเมื่อ 2 ปีก่อน ว่ากันว่าสมบัติที่พบครั้งนั้นมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่างบประมาณด้านการศึกษาของรัฐบาลอินเดียเสียอีก
หนังสือพิมพ์ ไทม์ส ออฟ อินเดีย รายงานว่า ทรัพย์สมบัติบางส่วนที่พบภายในกรุประกอบด้วยเหรียญทองคำหนัก 1 ตัน ซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึงสมัยกษัตริย์ นโปเลียน โบนาปาร์ต ของฝรั่งเศส, กระสอบใส่เพชรนิลจินดา และรูปปั้นทองคำ
ศาลสูงสุดอินเดียได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่พบ และจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด