xs
xsm
sm
md
lg

ล่าสุดยังมีเสียงยิงโต้สนั่นในห้างเคนยา!! “ก่อการร้ายอเมริกัน 2 อังกฤษ 1” ร่วมอยู่ด้วย – เผยชะตา “ม่ายขาว” ผู้สั่งการถึงฆาต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี/เอเอฟพี /เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีต่างประเทศเคนยา อามินา โมฮัมเหม็ด เผยในวันจันทร์(23)ที่ผ่านมานี้ว่า มีผู้ก่อการร้ายอเมริกัน 2 รายและอังกฤษ 1 รายร่วมกับผู้ก่อการร้ายจากชาติอื่นๆเข้าร่วมการโจมตีห้างเวสต์เกท ในกรุงไนโรบี เคนยา ในขณะที่ “ม่ายขาว” ซาแมนธา ลิวธ์เวต วัย 29 ที่ทางหน่วยงานเคนยาคาดว่า เธอนั้นเป็นหนึ่งในมือยิงสไนเปอร์ ล่าสุดอาจจะเสียชีวิตพร้อมกับผู้ก่อการคนอื่นในห้าง ในขณะที่เหตุการณ์ล่าสุดในวันนี้(24) ยังมีเสียงปืนยิงตอบโต้ดังออกมาจากห้างระหว่างผู้ก่อการร้ายไม่กี่คนกับหน่วยกองกำลังพิเศษของเคนยา ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทางการเคนยาประกาศสามารถเข้าควบคุมตัวห้างและช่วยเหลือตัวประกันออกได้หมดแล้ว

รัฐมนตรีต่างประเทศเคนยา อามินา โมฮัมเหม็ด เผยในวันจันทร์(23)ผ่านรายการ “NewsHour” สถานีโทรทัศน์ของอเมริกาPBSว่า จากสายข่าวของเคนยาพบ มีชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับหรือโซมาเลียอายุราว 18-19 ปี จำนวน 2-3 คน รวมถึงสตรีชาวอังกฤษ 1 คน มีส่วนในการโจมตีห้างในเคนยาครั้งนี้ “ จากการข่าวที่ดิฉันมีอยู่นี้พบว่า มีวัยรุ่นอเมริกันเชื้อสายอาหรับหรือโซมาเรียจำนวนราว 2 หรือ 3 คน ที่อาศัยอยู่ในรัฐมินนิโซตา หรือรัฐอื่นอีก รวมถึงผู้หญิงชาวอังกฤษ 1 คน ร่วมในการกราดยิงครั้งนี้ด้วย โดยที่ผ่านมาผู้หญิงคนนี้ลงมือปฎิบัติการมาหลายครั้งแล้ว ในขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประทศสหรัฐฯ เจน ซากี กล่าวว่า ทางสหรัฐฯจะตรวจสอบเรื่องนี้ว่ามีหลักฐานหรือไม่ที่ว่ามีชาวอเมริกันร่วมลงมือก่อการร้ายที่เคนยาในครั้งนี้ “ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดแจ้งที่จะยืนยันทั้งสัญชาติหรือบุคคลที่ลงมือกระทำ” และทางโฆษกของทำเนียบขาว เบน โรดส์ เผยว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสหรัฐฯได้เห็นรายงานที่ออกมาจากกลุ่มก่อการร้ายอัล-เชบับที่อ้างว่า “มีชาวอเมริกันมีส่วนเกี่ยวข้อง” โดยเบนกล่าวว่า “แต่แน่นอนที่สุด เราจะตรวจสอบอย่างรอบคอบและไม่ตัดประเด็นใดทิ้งลงไป และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะมีความเป็นไปได้ที่ทางกลุ่มก่อการร้ายโซมาเลียนี้จะรวบรวมพลเมืองอเมริกันหรือคนที่อาศัยในสหรัฐฯมาที่โซมาเลีย ทางการสหรัฐฯได้ติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด และมันเป็นสิ่งที่สหรัฐฯจะสืบให้ละเอียดในไม่กี่วันข้างหน้านี้”

และสื่อสหรัฐฯ NBC ที่เกาะติดประเด็นนี้รายงานว่า จากทวิตเตอร์ของกลุ่มอัล-เชบับได้อ้างว่า มีอเมริกัน 6 คนที่ร่วมทำ “ญิฮาด” จับตัวประกันในห้าง โดยทั้ง6คนนั้นมาจากรัฐมินนิโซตา เมืองแคนซัส ซิตี รัฐเมน รัฐอิลลินอยส์ และรัฐแอริโซนา โดยทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเผยในวันจันทร์(23)ว่า ได้ตรวจสอบรายชื่อของชาวอเมริกันทั้งหมดที่ทางกลุ่มก่อการร้ายอ้างว่าเป็นชาวอเมริกันนั้นแต่ไม่พบในฐานข้อมูล คาดว่าชื่อที่อ้างบนทวิตเตอร์ของกลุ่มก่อการร้ายนั้นอาจเป็นชื่อเฉพาะตัวหรืออาจเป็นนามแฝง หรือไม่เช่นนั้นข้อมูลบนทวิตเตอร์นั้นเป็นเท็จ โดยในขณะนี้ทางสหรัฐฯคาดว่า มีผู้ถือหนังสือเดินทางสหรัฐฯจำนวนราว 20 คน ร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายอัล-เชบับ ซึ่งจาก รายชื่อผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐฯจับตา พบว่า ในแง่การดำรงตำแหน่งในกลุ่มติดอาวุธนั้นอาจมีชาวอเมริกันเป็นผู้สั่งการรบแต่พวกเขาจะไม่มีวันได้เป็นถึง “เอมีร์” หรือหัวหน้า หรือรองเอมีร์ในกลุ่มอัล-เชบับ

ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเคนยา โจเซฟ โอเล เลนกู กล่าวว่า “มีผู้ก่อการร้ายมาจากหลายประเทศร่วมลงมือโจมตีห้างเวสต์เกท” และผู้บัญชาการกองทัพเคนยา นายพลจูเลียส คารากี เผยว่า “ทางการเคนยารู้แล้วว่าพวกคนร้ายเป็นใคร สัญชาติอะไร เคนยากำลังสู้กับการก่อการร้ายที่มาจากทั่งทุกมุมโลกในขณะนี้” จากรายงานพบว่ามีผู้ลงมือในปฎิบัติการนั้นมาจากทั้งสหรัฐฯ แคนาดา สวีเดน ซีเรีย ฟินแลนด์ รัสเซีย ดาเกสถาน เคนยา และโซมาเลีย อ้างจากทวิตเตอร์ของกลุ่มอัล-เชบับ และสื่ออังกฤษ เช่น เมลออนไลน์เผยว่า มีหลักฐานพบว่า มีร่างของหญิงผิวขาวเสียชีวิตในห้างคาดว่าจะเป็น “ม่ายขาว” ซาแมนธา ลิวธ์เวต อดีตภรรยาของมือระบิดฆ่าตัวตาย 7/7ในกรุงลอนดอน ปี 2005 รวมอยู่ด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่เคนยายืนยันว่า มีผู้ก่อการร้าย 3 รายเสียชีวิตโดยหนึ่งในนั้นเป็นหญิงผิวขาว ซึ่งสอดคล้องกับที่มีสื่ออังกฤษได้รายงานก่อนหน้านั้นว่า ลิวธ์เวตเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีโดยสั่งการเป็นภาษาอาราบิกแต่สื่อฉบับนั้นไม่ได้อธิบายว่าเหตุใดเธอจึงต้องสั่งเป็นภาษานั้น ซึ่งตรงกับแหล่งข่าวของรอยเตอร์ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและทหารอีก 2 นายยืนยันตรงกัน ถึงการเสียชีวิตของผู้ก่อการร้ายที่มีหญิงชาวคอเคเซียนรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ ทางตำรวจเคนยาเชื่อว่า “ม่ายขาว” นั้นเป็นแหล่งเงินทุนให้กับทางกลุ่มก่อการร้ายและเป็นผู้สอนการทำระเบิด แต่ทว่าพวกเขายังไม่ทราบถึงขอบเขตการข้องเกี่ยวของเธอในการปฎิบัติการครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงหน่วยต่อต้านก่อการร้ายของเคนยาเสริมว่า “เคนยาเชื่อว่า ลิวธ์เวตเป็นผู้สั่งการปฎิบัติการโจมตีแต่เรายังไม่ทราบว่าตอนนี้เธอเป็นเช่นไร แต่เป็นที่เข้าใจว่าเธอเป็นมือยิงสไนเปอร์ด้วย”

และจากเหตุการณ์ล่าสุด เอเอฟพีรายงานในวันนี้(24)ว่า กลุ่มก่อการร้ายที่ยังเหลืออีก 1-2 คน ยังคงยึดบางส่วนของห้างไว้ได้และได้ยิงตอบโต้กับเจ้าหน้าหน่วยกองกำลังพิเศษของเคนยา โดยทางเจ้าหน้าที่เคนยาได้เข้าไปบริเวณส่วนของคาสิโนที่ตั้งอยู่ชั้นบน และมีพยานได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดดังออกมาอย่างชัดเจน เหตุการณ์ปะทะเดือดล่าสุดนั้นเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงภายหลังจากที่รัฐบาลเคนยาประกาศว่าสามารถเข้าควบคุมห้างเวสต์เกทและช่วยเหลือตัวประกันสำเร็จแล้ว

และก่อนหน้านี้มีการยืนยันว่า ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯและอิสราเอลเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนยึดห้างคืนและให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกกับทางเคนยา โดยยอดล่าสุดมีผู้เสียชีวิตราว 62 คน และจากแหล่งข่าวนัการทูตตะวันตกอ้างว่า มีหน่วยคอมมานโดเคนยา 3 ราย และเจ้าหน้าที่พลเรือนเคนยา 10 ราย เสียชีวิตจากการเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันในวันอาทิตย์(22) ในขณะที่รัฐบาลเคนยาปฎิเสธตัวเลขเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่โดยสิ้นเชิง และมีตัวประกันร่วม 200 คนที่ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ ซึ่งยังไม่เป็นตัวเลขที่แน่นอน



 “ม่ายขาว” ซาแมนธา ลิวธ์เวต อดีตภรรยาของมือระบิดฆ่าตัวตาย 7/7ในกรุงลอนดอน ปี 2005 ที่คาดว่้าเธอน่าจะเสียชีวิตแล้ว

เจ้าหน้าที่ SASของอังกฤษ(กลาง)ที่ไม่ได้อยู่ในหน้าที่ปฎิบัติการ ถูกพบช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากการกราดยิงห้างในเคนยา
ผู้ก่อการร้ายที่ยึดห้าง




กำลังโหลดความคิดเห็น