เอเอฟพี – ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนมานูเอลและเฮอริเคนอิงกริดที่ซัดถล่มเม็กซิโกพร้อมกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 80 ราย ขณะที่โซนร้อนมานูเอลทวีกำลังแรงขึ้นจนเป็นเฮอริเคนระดับ 1 แล้ว วันนี้ (19)
ทางการเม็กซิโกพบผู้เสียชีวิตใน 12 รัฐหลังจากที่แดนจังโก้ถูกพายุคู่แฝดซัดกระหนาบ 2 ด้าน จนเกิดดินไหลและน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งอพยพนักท่องเที่ยวออกจาเมืองอากาปุลโก ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลที่เก่าแก่
ยอดผู้เสียชีวิตยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น หลังจากนายกเทศมนตรีประจำเทศบาลในเขตภูเขาของรัฐเกร์เรโรรายงานว่า เกิดดินถล่มลงมาทับบ้านเรือน 20 หลังซึ่งมีสมาชิกราวๆ 70 คน แต่ขณะนี้เพิ่งจะกู้ศพขึ้นมาได้เพียง 15 ร่าง
เอดิเบอร์โต ตาบาเรซ นายกเทศมนตรีเมือง อะโตยัค เด อัลวาเรซ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้สถานการณ์จัดว่าวิกฤตหนักในหมู่บ้านลาปินตาดา ซึ่งเกิดฝนตกหนักจนดินไหลลงมาทับหมู่บ้าน ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย มิเกล แองเจิล โอโซริโอ ชอง แถลงว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันยอดผู้เสียชีวิตได้ แต่สภาพของหมู่บ้านที่ถูกทำลาย “ดูไม่มีความหวัง”
ขณะเดียวกัน มีรายงานจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ว่า พายุโซนร้อนมานูเอลซึ่งห่างออกไปทางตอนเหนือได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นเฮอริเคนระดับ 1 ด้วยความเร็วลมประมาณ 115 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีศูนย์กลางอยู่บริเวณรัฐซีนาโลอาของเม็กซิโก นอกจากนี้ยังมีพายุไซโคลนอีกลูกกำลังก่อตัวบริเวณชายฝั่งตะวันออกด้วย
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีที่แดนจังโก้ถูกพายุ 2 ลูกซัดถล่มแทบจะพร้อมกัน โดยพายุโซนร้อนมานูเอลพัดเข้าสู่เม็กซิโกทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนเฮอริเคนอิงกริดก็ซัดถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16)
อิทธิพลของพายุทั้ง 2 ลูกส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 220,000 คน บ้านเรือนและสะพานพังเสียหายหลายแห่ง ส่วนเมืองอากาปุลโกก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หลังจากที่ถนนหลวง 2 สายถูกดินถล่มปิดกั้นเส้นทาง และมีน้ำท่วมภายในสนามบิน
ทางการเม็กซิโกประกาศว่า ถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองอากาปุลโกริมชายฝั่งแปซิฟิกกับกรุงเม็กซิโกซิตี น่าจะเปิดใช้งานได้ภายในวันศุกร์นี้ (20)
