รอยเตอร์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ที่กินพื้นที่ส่วนมากของเม็กซิโกพุ่งขึ้นเป็น 130 รายแล้ววานนี้ (24) ขณะที่ทางการออกมาเตือนว่าอาจจะมีฝนตกหนักกว่าเดิมซ้ำเติมลงมาอีกในหลายพื้นที่ ซึ่งทนทุกข์แสนสาหัสอยู่แล้วจากผลพวงของความเสียหายโดยวาตภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี
มิเกล อังเคล โอโซเรียว ชอง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเม็กซิโก กล่าวในการสัมภาษณ์ทางวิทยุว่า มีศพผู้เสียชีวิตมากมายถูกกู้ขึ้นมาจากโคลนที่ถล่มสร้างความเสียหายหนัก ซึ่งฝังกลบบ้านเรือน 40 หลัง ที่หมู่บ้าน ลา ปินตาดา ในทางตอนใต้ของรัฐเกร์เรโร
โอโซเรียว ชอง และประธานาธิบดี เอนริเก เปนา เนียโต ได้ตรวจสอบความพยายามเก็บกู้ในลา ปินตาดา พื้นที่ที่ยังมีผู้สูญหายหลายสิบถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลน โดย เปนา เนียโต กล่าวว่า หลังช่วงสุดสัปดาห์นี้ไป ก็แทบไม่เหลือความหวังที่จะมีใครรอดชีวิตอยู่ใต้หมู่บ้านที่ถูกโคลนถล่มนี้อีกแล้ว
โดย รัฐเกร์เรโร เป็นที่ตั้งของเมืองอะกาปุลโก เมืองรีสอร์ทชายฝั่งแปซิฟิกที่มีสภาพยับเยินไปเสียแล้ว และเป็นที่อยู่ของบรรดาชุนชนเกษตรกรรมที่ยากจนที่สุดจากในบางส่วนของประเทศ โดยผลการตรวจสอบปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นบริเวณที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด หลังจากพายุโซนร้อนอิงกริดและพายุเฮอร์ริเคนมานูเอลซัดกระหน่ำแดนจังโก้แบบไม่ลืมหูลืมตาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
กรมอุตุนิยมวิทยาเม็กซิโกออกมาเตือนว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่จะทำให้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในระดับปานกลางถึงหนักในวันอังคาร(24) ที่รัฐเกร์เรโรและอีกหลายรัฐที่มีเขื่อนซึ่งกักเก็บน้ำเต็มอัตราแล้ว และที่มีแม่น้ำที่เอ่อล้นตลิ่งด้วย
ผู้นำแดนจังโก้กล่าวในวันอาทิตย์(22) ว่า สภาคองเกรสเม็กซิโกจะนำร่างงบประมาณปี 2014 ที่เสนอไปแล้วกลับมาทบทวนอีกครั้ง เพื่อให้อนุมัติงบสำหรับการใช้จ่ายในด้านภัยพิบัติ ซึ่งในขณะนี้ค่าใช้จ่ายดังกล่าวบานปลายเกินกว่าเงินกองทุนฉุกเฉินที่มีอยู่ราว 12,000 ล้านเม็กซิโกแล้ว (ราว 29,400 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้เลื่อนเวลาการเตรียมข้อมูลรายงานความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศโดยเบื้องต้นออกไปเป็นวันอังคาร(24)
