เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่เม็กซิกันเผยว่า เม็กซิโกขณะนี้กำลังเผชิญกับทั้ง“พายุโซนร้อนมานูเอล” ที่ได้เข้ามาทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศและ “พายุเฮอริเคนอิงกริด” ที่เข้ามาทางชายฝั่งตะวันออกของเม็กซิโก ในวันเสาร์ (14) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5 ราย และอาจเป็นต้นเหตุทำลายสุดสัปดาห์ฉลองวันประกาศเอกราชของเม็กซิโก
ในขณะนี้มีชาวเม็กซิโกจำนวนมากกว่า 5,000 รายได้อพยพออกจากชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกล่วงหน้าการเข้าฝั่งของพายุเฮอริเคนอิงกริด ที่ในขณะนี้มีความเร็วอยู่ที่ 120 กม.ต่อชั่วโมง และคาดกันว่าเฮริเคนอิงกริดจะทำให้เกิดแผ่นดินถล่มตามมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยจากรายงานของเทเลวิซา โนติเม็กซ์ สื่อในเม็กซิโกรายงานว่า พายุเฮอริเคนอิงกริดได้คร่าชีวิตไปแล้ว 2 ราย
จากการรายงานพบว่า นอกจากเฮอริเคนแล้วยังมีพายุโซนร้อนมานูเอลพัดเข้ามาทางทางชายฝั่งตะวันตกของเม็กซิโกที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก โนติเม็กซ์รายงานยืนยันว่าได้คร่าชีวิตชาวเม็กซิกันไปอีก 3 ราย ซึ่งพายุโซนร้อนมานูเอลทำให้เกิดฝนตกหนักมากภายใน 3 วัน ซึ่งจำนวนน้ำฝนที่ตกนั้นมากเป็น 2 เท่าของที่ตกตลอดทั้งเดือน โดยพบว่ารัฐโออาซากา รัฐเกร์เรโร และรัฐชีวาวา ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยถนนบางสายและระบบการสื่อสารถูกตัดขาด
วิล แกรนต์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำเม็กซิโกซิตีได้รายงานว่า พายุเฮอริเคนอิงกริดที่ได้ก่อกำลังในอ่าวเม็กซิโกนั้น เป็นพายุที่มีฤทธิ์เป็นอันดับ 2 ในฤดูเฮอริเคนปี 2013 และคาดกันว่าเฮอริเคนอิงกริดจะเข้าทำลายในหลายชุมชนแถบตะวันออก โดยชาวเม็กซิกันส่วนใหญ่ที่อพยพออกจากเขตเสี่ยงภัยนั้นได้ย้ายเข้าไปอาศัยในที่หลบภัยที่รัฐจัดหาให้ ในขณะที่ชาวเม็กซิกันที่เหลือได้หาที่หลบภัยในบ้านคนรู้จักหรือครอบครัว
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เผยว่าท่าเรือส่งออกน้ำมันที่สำคัญของประเทศ 2 แห่งจากทั้งหมด 3 แห่ง ได้ปิดลงถีงแม้ว่าท่าอื่นๆ ทั่วประเทศ ที่รวมถึงท่าในเวรากรูซยังคงเปิดทำการปกติในขณะที่พายุทั้ง 2 ลูกเข้าเม็กซิโกในวันเสาร์ (14)
จากรายงานยังพบว่า พายุเฮอริเคนอิงกริดนั้นคาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกราว 25-63 ซม. ในบริเวณกว้างของทางภาคตะวันออกของเม็กซิโก ซึ่งจะมีผลตามมาทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่ม และยังคาดว่าพายุเฮอริเคนอิงกริดจะทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จ หรือคลื่นพายุพัดฝั่งสูงถึง 0.6 เมตร-1.2 เมตร ไม่ห่างจากบริเวณที่จะเกิดดินถล่ม
ในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาวเม็กซิโก 13 ราย เสียชีวิตที่เวรากรูซ เพราะบ้านพังลงมาเนื่องจากดินถล่มที่เกิดจากฝนตกหนัก
และอีกด้านหนึ่งของประเทศทางฝั่งตะวันตก เกิดเหตุการณ์คล้ายกันที่รัฐโออาซากาซึ่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก รัฐเกร์เรโร และรัฐชีวาวาที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ที่ถูกพายุโซนร้อนมานูเอลถล่ม และคาดว่าจะทำให้ฝนตกหนักราว 60 ซม.ภายใน 3 วัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเป็น 2 เท่าที่ตกตลอดทั้งเดือน
โดยเจ้าหน้าที่เม็กซิกันกลัวว่า ปริมาณของน้ำฝนที่ตกเป็นจำนวนมากนั้นจะทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและโคลนถล่มในสุดสัปดาห์ฉลองวันประกาศเอกราชของเม็กซิโก