เอเอฟพี /เอเจนซีส์- บริษัทให้การบริการด้านพลังงาน ฮาลลิเบอร์ตัน ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งที่เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ยอมรับว่าได้ทำลายหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับหายนะน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก ปี 2010 และตกลงที่จะจ่ายค่าปรับขั้นสูงสุดเป็นเงิน 200,000 ดอลลาร์ แถลงจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
แถลงการของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เผยว่า ทางกระทรวงได้พบว่า บริษัทฮาลลิเบอร์ตันได้ปกปิดและทำลายหลักฐานที่ยืนยันความผิดพลาดของบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องการรั่วไหลน้ำมันดิบ 4.9 ล้านบาร์เรล ที่อ่าวเม็กซิโก ปี 2010
โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฮาลลิเบอร์ตันนั้นถูกใช้ในการอุดช่องว่างทางด้านนอกของบ่อของท่อขุดเจาะน้ำมันที่ทำด้วยเหล็ก โดยคุณภาพของซีเมนต์และระยะเวลาที่ทำให้แห้งเป็นประเด็นที่ต้องตรวจสอบ โดยฮาลลิเบอร์ตันได้ทำการตรวจสอบภายในขึ้น
ประเด็นในการตรวจสอบนั้นอยู่ตรงที่ว่าบริษัทน้ำมันบีพีทำการผิดพลาดโดยใช้อุปกรณ์ 6 ชนิด แทนที่จะใช้ 21 ชนิดที่รู้จักในนาม Centralizers และMetal collars ที่อยู่ด้านนอกของท่อขุดเจาะที่ทำด้วยโลหะ ซึ่งช่วยให้ตัวท่อเจาะนั้นยังคงอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของหลุมขุดเจาะหรือไม่ เพราะก่อนหน้านั้น ฮาลลิเบอร์ตันได้เสนอให้บีพีใช้อุปกรณ 21 ชนิด
และผลการศึกษาที่ทำขึ้นบนการจำลองสถานการณ์ในคอมพิวเตอร์ที่ออกมาในเดือน พฤษภาคมและมิถุนายน 2010 นั้นแสดงว่า มีความต่างเพียงเล็กน้อยในการใช้อุปกรณ์ 6 หรือ 21 ชนิด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความผิดพาดนั้นอยู่ที่ซีเมนต์ของฮาลลิเบอร์ตัน เป็นผลให้มีคำสั่งให้ทำลายผลการศึกษาเหล่านี้โดยที่ไม่สามารถกู้กลับคืนมาได้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเผยต่อ
ในการที่ฮาลลิเบอร์ตันต้องยอมรับผิดในข้อหาทำลายหลักฐานครั้งนี้ ทางบริษัทได้ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับขั้นสูงสุดจำนวน 200,000 ดอลลาร์ และฮาลลิเบอร์ตันยังเสนอจ่ายเพิ่มอีก 55 ล้านดอลลาร์ให้กับสถาบันสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแห่งชาติเพื่อแลกกับการที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯไม่ดำเนินคดีต่อ
จากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก ทำให้มียอดคนเสียชีวิตที่ 11 คน และน้ำมันดิบอีก 4.9 ล้านบาร์เรล ไหลลงอ่าวเม็กซิโกตลอด 3 เดือนหลัง หลังการระเบิดของแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล
เหตุการณน้ำมันรั่วครั้งนี้เป็นปรากฎการณ์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ