รอยเตอร์ – ทางการสหรัฐฯ ประกาศอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ลุ่มตอนใต้ของเมืองนิวออร์ลีนส์ตั้งแต่เมื่อวานนี้(4) ขณะที่พายุโซนร้อนคาเรน (Karen) กำลังเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งรัฐลุยเซียนา และส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันบริเวณอ่าวเม็กซิโก
โซนร้อนคาเรนเริ่มจะอ่อนกำลังลงเล็กน้อย จากความเร็วลม 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 1 วันก่อนหน้า เหลือเพียงราวๆ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ในเมืองไมอามีคาดว่า พายุลูกนี้อาจทวีกำลังแรงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่จะไม่ยกระดับเป็นเฮอริเคน
แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกลดกำลังผลิตเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง หลังจากที่มีการปิดแท่นขุดเจาะบางส่วน และอพยพคนงานเพื่อหลีกเลี่ยงพายุ โดยการผลิตบริเวณอ่าวเม็กซิโกนี้คิดเป็นร้อยละ 19 ของน้ำมันที่ผลิตได้ทั้งหมดในสหรัฐฯ และร้อยละ 6 สำหรับก๊าซธรรมชาติ
นายกเทศมนตรีเมืองแกรนด์ไอล์ (Grande Isle) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะปราการทางตอนใต้ของเมืองนิวออร์ลีนส์ ได้สั่งอพยพประชาชนออกจากเมืองซึ่งเป็นสถานตากอากาศและแหล่งตกปลาชื่อดัง ส่วนที่เขตปกครองท้องถิ่น Lafourche ทางใต้ และ Plaquemines ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองนิวออร์ลีนส์ ชาวเมืองก็ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือนก่อนค่ำ
จากการพยากรณ์เส้นทางของโซนร้อนคาเรน คาดว่าพายุลูกนี้จะขึ้นสู่ชายฝั่งรัฐลุยเซียนาในช่วงค่ำวันนี้(5) ก่อนเดินทางต่อไปยังรัฐมิสซิสซิปปีและแอละแบมา ในวันอาทิตย์(6)
เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์(4) ศูนย์กลางพายุยังอยู่ห่างจากปากแม่น้ำมิสซิสซิปปีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราวๆ 375 กิโลเมตร และเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แต่จากการพยากรณ์คาดว่าพายุจะเคลื่อนกลับมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือผ่านชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก
ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา, มิสซิสซิปปี, ฟลอริดา และแอละแบมา ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเร่งเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อนคาเรนที่จะพัดเข้าฝั่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ขณะที่สำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลกลาง (FEMA) ก็ได้เรียกพนักงานบางส่วนที่หยุดงานจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลับมาทำงานด้วย
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติประกาศเตือนปริมาณฝนราว 15 เซนติเมตรตลอดเส้นทางที่พายุเคลื่อนผ่าน และระดับน้ำทะเลที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามแนวชายฝั่ง