เอพี - พายุโซนร้อนมานูเอลได้ขึ้นฝั่งทางตะวันตกของเม็กซิโกทางมหาสมุทรแปซิฟิกในวันอาทิตย์ (15) ในขณะที่พายุเฮอริเคนอิงกริดได้เข้ามาทางฝั่งตะวันออก ทำให้เกิดฝนตกหนักและดินถล่ม ที่ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มอย่างน้อย 24 รายในขณะนี้ และทำให้ชาวเม็กซิกันหลายพันคนต้องอพยพหนีภัย
เป็นที่คาดกันก่อนหน้านี้แล้วว่า การพัดเข้าฝั่งทั้ง 2 ด้านของประเทศเม็กซิโกในช่วงสุดสัปดาห์จะเป็นผลให้มีการงดจัดงานฉลองวันประกาศเอกราชของเม็กซิโกในวันอาทิตย์ (15) และวันจันทร์ (16)
โดยทางศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ คาดว่า พายุโซนร้อนมานูเอลจะมีกำลังอ่อนลงในทันทีที่มีการเกิดแผ่นดินถล่มใกล้กับท่าเรือแมนซานิลโลในช่วงบ่าย แต่พายุโซนร้อนที่คาดว่าจะอ่อนกำลังลงนี้จะยังมีฤทธิ์ทำให้เกิดน้ำท่วมแบพลันและโคลนถล่มตามมา ซึ่งทางศุนย์คาดว่าพายุดซนร้อนลูกนี้จะสลายตัวก่อนวันจันทร์ (16)
และในรัฐเกร์เรโรที่อยู่ทางตอนใต้ เจ้าหน้าที่เม็กซิกันได้เผยว่า มีดินถล่มอยู่ที่ชานเมืองอคาปูลโค ทำให้เกิดบ้านพังลงมาทับและคร่าสมาชิกของบ้านจำนวน 6 คนจากเหตุการณ์ดินถล่ม โดยในจำนวนนี้ มีสมาชิก 3 รายถูกน้ำพัดไปจนเสียชีวิต และมีชาวเมืองอีก 1 รายเสียชีวิตเพราะกำแพงพังลงมาทับ
นอกจากนี้ ในเมืองอื่นๆ ของรัฐเกร์เรโร ชาวเม็กซิกันอีก 6 คนเสียชีวิตขณะอยู่ในรถปิกอัพส่วนตัวที่พลิกคว่ำบนถนนไฮเวย์บนภูเขา และเกิดแผ่นดินถล่มที่ได้คร่าชีวิตชาวเม็กซิกันไปอีก 2 ราย
เป็นเพราะพายุทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน จนเป็นเหตุให้เกิดแม่น้ำล้นเออฝั่ง และเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับบ้านจำนวนหลายร้อยหลัง และทำให้การสื่อสารหยุดชะงักเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง
พายุโซนร้อนมานูเอลที่ทำลายบ้านเรือนและคร้าชีวิตผู้คนนี้ มีความเร็วลมอยู่ที่ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และได้เคลื่อนที่ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือที่ความเร็ว 15 กม.ต่อชม. ในบ่ายแก่ของวันอาทิตย์ (15) โดยที่ศูนย์กลางความเร็วของพายุโซนร้อนอยู่ที่ 65 กม.ต่อ ชม. ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของแมนซานนิลโล
ขณะเดียวกัน ทางด้านตะวันออกของเม็กซิโก พายุเฮอริเคนอิงกริดได้ทำให้เกิดฝนตกหนัก และทำให้เกิดดินถล่มตามมา และคร่าชีวิตชาวเม็กซิกันไป 3 รายในรัฐปวยบลาที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ นอกจากนี้ยังมีหญิงเม็กซิกัน 1 รายเสียชีวิตในบ้านของเธอเองที่พังลงมาเพราะดินถล่มในรัฐอีดัลโก
และในรัฐโออาซากาที่อยู่ทางใต้ ซึ่งถูกถล่มจากพายุ 2 ลูกขนาบพร้อมกัน เจ้าหน้าที่เม็กซิกันเผยว่า มีเด็กชาวเม็กซิกัน 1 รายเสียชีวิตหลังจากถูกกระแสน้ำพัดไป และวัยรุ่นเม็กซิกัน 1 ราย ต้องจบชีวิตเพราะดินถล่ม
นอกจากนี้ ทางศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ คาดว่า เฮอริเคนอิงกริดซึ่งถูกจัดว่าเป็นพายุที่มีกำลังมากเป็นอันดับ 2 ในฤดูพายุของมหาสมุทรแอตแลนติกปี 2013 นั้นจะสามารถเข้าสู่เขตชั้นในเม็กซิโกก่อนวันจันทร์เช้า (16)
ทางศูนย์ฯ คาดว่าพายุโซนร้อนมานูเอลจะทำให้เกิดฝนตกปริมาณ 10-15 นิ้ว ทั่วรัฐเกร์เรโรและรัฐมิโซอากัง และอาจมีปริมาณน้ำฝนมากถึง 25 นิ้วในเขตที่ห่างไกล ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่มากขนาดนั้นป็นอันตรายโดยเฉพาะในเขตภูเขา ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่มได้
ส่วนด้านเฮอริเคนอิงกริดนั้น ทางศุนย์คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักเช่นกัน ที่ผ่านมาเฮอริเคนอิงกริดมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 120 กม.ต่อ ชม. และศูนย์กลางความเร็วพายุอยู่ที่ 200 กม ต่อ ชม. ไปทางเหนือเฉียงไปตะวันออกของเมืองท่าตามปิโก โดยความเร็วของการเคลื่อนที่อยู่ที่ 6 กม.ต่อชม. มีการเตือนภัยพายุเฮอริเคนครอบคลุมในพื้นที่ คาโบ โรโฮ จนถึง ลา เปสกา
และที่รัฐตาเมาลีปัสทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งพายุเฮอริเคนอิงกริดคาดว่าจะมาถึงนั้น ทางรัฐบาลเม็กซิโกได้ประกาศในแถลงการว่า ได้ทำการยกเลิกจัดงานฉลองวันประกาศเอกราชเม็กซิโกจากสเปนที่แต่เดิมมีกำหนดการจัดงานในวันที่ 15-16 ในเมืองตามปิโก เมืองมาเดโร และเมืองอัลตามมิรา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของเม็กซิโกในรัฐเวรากรูซติดกับอ่าวเม็กซิโก ได้เริ่มอพยพประชาชนชาวเวรากรูซออกจากพื้นที่เสี่ยงในคืนดึกวันศุกร์ (13) ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจเม็กซิกันเผยว่ามีประชาชนเม็กซิกันจำนวนมากกว่า 6,600 คนได้ย้ายเข้าไปอยู่ในที่หลบภัยชั่วคราวที่รัฐจัดหาไว้ หรือบ้านเพื่อนหรือญาติ
นอกจากนี้ยังมีบ้านจำนวนมากกว่า 1,000 หลัง ในรัฐเวรากรูซเสียหายจากแรงพายุ และยังรวมไปถึงถนนไฮเวย์อีก 20 สาย และสะพานอีก 12 แห่งได้ความเสียหานจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเม็กซิโกเผยต่อว่า สะพานพังลงมาใกล้กับเมืองมิซานต์ลาที่อยู่ในรัฐเวรากรูซทางตอนเหนือของเม็กซิโก และทำให้ทางคมนาคมถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงจากเมืองหลวงของรัฐ ฮาลาปา นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่เม็กซิกันยังเผยตบท้ายว่า ในรัฐตาเมาลีปัส มีประชาชนราว 700 รายได้อพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว