เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 42 รายในเม็กซิโก หลังจากแดนจังโก้ต้องเผชิญการโจมตีของพายุใหญ่ถึง 2 ลูกพร้อมกันในคราวเดียว จนเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่มในหลายพื้นที่ ขณะที่นักท่องเที่ยวอีกราว 40,000 คนต้องติดค้างอยู่ตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงเมืองตากอากาศชื่อดังอย่าง อกาปุลโก
รายงานข่าวระบุว่า พายุโซนร้อน “มานูเอล” ที่พัดขึ้นฝั่งด้านตะวันตกของเม็กซิโกที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ยังคงทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่พายุเฮอริเคน “อิงกริด” ที่พัดถล่มพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก ก็ได้สร้างความเสียหายที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ล่าสุดมีรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในเม็กซิโกได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 42 รายแล้ว และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากอิทธิพลของพายุทั้งสองลูกทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่
มิเกล อังเฆล โอโซริโอ ชอง รัฐมนตรีมหาดไทยเม็กซิโกออกมายอมรับว่า ขณะนี้พื้นที่มากกว่า 2 ใน 3 ของประเทศได้รับผลกระทบจากการพัดถล่มของพายุทั้งสองลูก โดยพื้นที่ที่เกิดการสูญเสียมากที่สุดคือ ที่รัฐเกร์เรโร ที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 21 คน หรือราวครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ทั่วประเทศ
ขณะที่เมืองตากอากาศชื่อดังอย่าง อกาปุลโก ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มีรายงานน้ำท่วมสูงถึง 3 เมตร ทำให้ทางหลวงสายหลักที่มุ่งหน้าสู่เมืองถูกตัดขาด และมีนักท่องเที่ยวกว่า 40,000 คน ติดค้างอยู่ในอกาปุลโก ตลอดจนเมืองตากอากาศอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง
ด้าน “เปเม็กซ์” บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเม็กซิโกต้องประกาศอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันอย่างน้อย 3 แห่งในอ่าวเม็กซิโก ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่เม็กซิโกถูกถล่มด้วยพายุโซนร้อนพร้อมกันถึง 2 ลูกนั้นต้องย้อนกลับไปถึงเมื่อปี 1958 แต่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในเวลานี้นับเป็นครั้งแรกที่เม็กซิโกต้องเผชิญกับการโจมตีจากพายุโซนร้อนและเฮอริเคน พร้อมกันในคราวเดียว