เจ้าหน้าที่เม็กซิโกเมื่อวันศุกร์(20) สามารถเปิดถนนหลวงที่เชื่อมระหว่างเมืองอกาปุลโกกับกรุงเม็กซิโก ซิตี ได้แล้ว ช่วยนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนที่ตกค้างท่ามกลางอุทกภัยในดินแดนตากอากาศแถบชายฝั่งแปซิฟิกนานเกือบสัปดาห์ ได้มีหนทางใหม่สำหรับอพยพออกมา ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายเป็นไปอย่างยากลำบาก ด้วยเจ้าหน้าที่หวั่นเกรงว่าอาจเกิดเหตุดินถล่มซ้ำ
ข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวมากขึ้น สวนทางกลับความหวังที่ริบหรี่ลงเรื่อยๆในการค้นหาผู้สูญหายอีกจำนวนมากในพื้นที่เชิงเขา หลังจากดินถล่มครั้งใหญ่ดูดกลืนไปเกือบครึ่งค่อนหมู่บ้าน นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่ยังกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ตำรวจลำหนึ่งซึ่งหายสาบสุญระหว่างปฏิบัติภารกิจบรรเทาภัยในแถบภูเขาเดียวกันในรัฐเกร์เรโร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
เม็กซิโก ต้องซวนเซจากพายุโซนร้อน 2 ลูกซ้อนทั้งอิงกริดและมานูเอล ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทิ้งไว้แต่หายนะเป็นทางยาว ทั้งบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายหลายพันหลัง หลายเมืองจมอยู่ใต้บาดาลและมีผู้เสียชีวิตราวๆ 100 ศพ นอกจากนี้หลังจากเล่นงานรัฐเกร์เรโรแล้ว มานูเอล ก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่และคราวนี้ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคน พร้อมกับซัดถล่มรัฐซีนาโลอาในวันศุกร์(20) ก่อผลกระทบต่อประชาชน 100,000 คนและสังหารผู้คนไป 3 ศพ ก่อนสลายตัวไป
กระทรวงคมนาคมระบุในทวิตเตอร์ว่าถนนซัน ไฮเวย์ ที่เชื่อมระหว่างอกาปุลโกกับเมืองหลวง กลับมาสัญจรได้แล้วหลังจากถูกถล่มด้วยดินที่ถล่มลงมาจนต้องปิดการสัญจนมาตั้งแต่วันอาทิตย์(15)
จนถึงวันศุกร์(20) มีชาวเม็กซิโกและคนต่างชาติแล้วมากกว่า 15,000 คนที่ได้รับการอพยพทางอากาศจากท่าอากาศยานของกองทัพ หลังจากสนามบินพลเรือนถูกน้ำท่วม อย่างไรก็ตามยังมีอีกราวๆ 25,000 ที่ยังติดค้างอยู่ภายในเมืองแห่งนี้ ขณะที่มีรายงานว่านักท่องเที่ยวราว 5,000 คนที่เข้าไปพักพิงชั่วคราวที่ศูนย์ประชุมแห่งนี้ ได้ปิดกั้นถนนสายหนึ่งเป็นเวลาราว 1 ชั่วโมงในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(19) เพื่อประท้วงต่อการขนย้ายทางอากาศที่ล่าช้า
ข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ในอารมณ์ขุ่นมัวมากขึ้น สวนทางกลับความหวังที่ริบหรี่ลงเรื่อยๆในการค้นหาผู้สูญหายอีกจำนวนมากในพื้นที่เชิงเขา หลังจากดินถล่มครั้งใหญ่ดูดกลืนไปเกือบครึ่งค่อนหมู่บ้าน นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่ยังกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ตำรวจลำหนึ่งซึ่งหายสาบสุญระหว่างปฏิบัติภารกิจบรรเทาภัยในแถบภูเขาเดียวกันในรัฐเกร์เรโร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
เม็กซิโก ต้องซวนเซจากพายุโซนร้อน 2 ลูกซ้อนทั้งอิงกริดและมานูเอล ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทิ้งไว้แต่หายนะเป็นทางยาว ทั้งบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายหลายพันหลัง หลายเมืองจมอยู่ใต้บาดาลและมีผู้เสียชีวิตราวๆ 100 ศพ นอกจากนี้หลังจากเล่นงานรัฐเกร์เรโรแล้ว มานูเอล ก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่และคราวนี้ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคน พร้อมกับซัดถล่มรัฐซีนาโลอาในวันศุกร์(20) ก่อผลกระทบต่อประชาชน 100,000 คนและสังหารผู้คนไป 3 ศพ ก่อนสลายตัวไป
กระทรวงคมนาคมระบุในทวิตเตอร์ว่าถนนซัน ไฮเวย์ ที่เชื่อมระหว่างอกาปุลโกกับเมืองหลวง กลับมาสัญจรได้แล้วหลังจากถูกถล่มด้วยดินที่ถล่มลงมาจนต้องปิดการสัญจนมาตั้งแต่วันอาทิตย์(15)
จนถึงวันศุกร์(20) มีชาวเม็กซิโกและคนต่างชาติแล้วมากกว่า 15,000 คนที่ได้รับการอพยพทางอากาศจากท่าอากาศยานของกองทัพ หลังจากสนามบินพลเรือนถูกน้ำท่วม อย่างไรก็ตามยังมีอีกราวๆ 25,000 ที่ยังติดค้างอยู่ภายในเมืองแห่งนี้ ขณะที่มีรายงานว่านักท่องเที่ยวราว 5,000 คนที่เข้าไปพักพิงชั่วคราวที่ศูนย์ประชุมแห่งนี้ ได้ปิดกั้นถนนสายหนึ่งเป็นเวลาราว 1 ชั่วโมงในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(19) เพื่อประท้วงต่อการขนย้ายทางอากาศที่ล่าช้า
