“โอบามา” ประกาศชะลอโจมตีซีเรีย-ให้โอกาส “ปูติน” ใช้แผนปลดอาวุธเคมี “อัสซาด”

เอเอฟพี – ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนปฏิบัติการโจมตีซีเรียออกไปก่อน หลังจากที่รัฐบาล บาชาร์ อัล-อัสซาด ยอมรับที่จะส่งมอบอาวุธเคมีให้นานาชาติเข้าไปดูแล และทำลายคลังอาวุธดังกล่าวตามข้อเสนอของรัสเซีย

ในถ้อยแถลงจากทำเนียบขาววานนี้ (10) ผู้นำสหรัฐฯเปิดเผยว่า ได้ขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการโหวตร่างอนุญาตปฏิบัติการโจมตีซีเรียออกไปก่อน เพื่อให้สหรัฐฯได้มีเวลาศึกษาข้อเสนอของรัสเซียอย่างถี่ถ้วน โดย โอบามา ก็จะหารือเป็นการส่วนตัวกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และจะส่งรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ไปร่วมประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศของมอสโกที่นครเจนีวาในวันพรุ่งนี้ (12)

“เวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า แผนนี้จะสำเร็จหรือไม่ และการทำข้อตกลงใดๆ ก็ตามจะต้องรับรองได้ว่า รัฐบาลอัสซาดจะปฏิบัติตามสัญญา... อย่างไรก็ดี แผนริเริ่มของรัสเซียมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยขจัดภัยคุกคามจากอาวุธเคมีโดยที่ไม่ต้องมีการใช้กำลังกัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะรัสเซียเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งที่สุดของซีเรียด้วย” โอบามา แถลง

กองเรือพิฆาตติดขีปนาวุธแบบร่อนของสหรัฐฯ จะยังประจำการอยู่ในฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และพร้อมที่จะโจมตีทันทีหากได้รับคำสั่งจากวอชิงตัน

“กองทัพสหรัฐฯไม่เคยทำอะไรเล่นๆ... แค่ปฏิบัติการโจมตีอย่างจำกัดของเราก็จะสามารถส่งสัญญาณเตือนอัสซาด อย่างที่ไม่มีชาติอื่นสามารถทำได้” โอบามา ระบุ

เจ้าหน้าที่เพนตากอนเผยเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้วว่า เรือรบสหรัฐฯสามารถระดมยิงขีปนาวุธสั่งสอนซีเรียได้ “ภายในไม่กี่วัน” หลังได้รับคำสั่ง แต่จากถ้อยคำของ โอบามา เวลานี้เห็นได้ชัดเจนว่า ต้องการใช้วิธีทางการทูตเกลี้ยกล่อมซีเรียมากกว่า

โอบามา ยืนยันว่า สหรัฐฯยังไม่ทิ้งทางเลือกที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้การเข่นฆ่าพลเรือนกว่า 1,400 ศพ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และหากอนุญาตให้ผู้นำเผด็จการคนใดถืออาวุธเคมีไว้ในมือ ก็จะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯเอง

อย่างไรก็ดี โอบามา รับปากว่าสหรัฐฯจะไม่ใช้กำลังกับซีเรีย จนกว่าคณะผู้ตรวจสอบอาวุธเคมีขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จะเผยแพร่รายงานว่าความจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร

ขณะเดียวกัน รัฐบาลซีเรียก็ฉวยโอกาสที่รัสเซียหยิบยื่นให้ โดยสัญญาจะส่งมอบคลังอาวุธเคมีให้กับนานาชาติ และพร้อมจะลงนามในสนธิสัญญายูเอ็นว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมี

วาลิด มูอัลเลม รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ของรัสเซียว่า “เราพร้อมที่จะบอกว่าอาวุธเคมีถูกเก็บไว้ที่ไหน และจะระงับการผลิต รวมถึงอนุญาตให้ผู้แทนรัสเซีย, ยูเอ็น หรือประเทศอื่นๆ เดินทางเข้าไปตรวจสอบสถานที่เหล่านั้น”

“เราต้องการเป็นภาคีสนธิสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี เราจะปฏิบัติตามพันธกรณีทุกอย่าง และให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเหล่านี้ด้วย”

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับระบอบอัสซาดมานานชี้ว่า คำมั่นสัญญาของซีเรียจะทำให้วิกฤตการณ์ครั้งนี้สิ้นสุดลงได้ แต่สหรัฐฯ เองควรจะยกเลิกคำขู่ใช้ปฏิบัติการทางทหารกับซีเรียเสียก่อน