“ปารีส” ขานรับ “โอบามา” ลั่นปฏิบัติการทางทหารยังเป็นทางเลือกในการลงโทษ “อัสซาด” หากมาตรการทางการทูตล้มเหลว ขณะที่ “รัสเซีย” ดักคอว่า จุดยืนแข็งกร้าวของฝรั่งเศสและอเมริกามีเป้าหมายเพื่อเปิดช่องสำหรับการโจมตีซีเรีย
ฝรั่งเศสได้เสนอญัตติต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เมื่อวันอังคาร (10ก.ย.) โดยมีเนื้อหากำหนดเงื่อนไขในการทำลายอาวุธเคมีในซีเรีย พร้อมเตือนว่า หากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ขัดขืน จะได้รับผลลัพธ์ขั้นรุนแรง
ต่อมาในวันพุธ (11) นาจาต์ วาลโลด์-เบลกาเซม โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวผ่านสถานีวิทยุฟรานซ์ อินเตอร์ เรดิโอ (อาร์เอฟไอ) ว่าฝรั่งเศสยังมุ่งมั่นในการลงโทษการใช้อาวุธเคมีของอัสซาด และว่าปฏิบัติการทางทหารยังคงเป็นทางเลือก หากกระบวนการทางการทูตในปัจจุบันล้มเหลว
ฝรั่งเศสเสนอญัตติดังกล่าวนี้ หนึ่งวันหลังจากที่รัสเซียสร้างความประหลาดใจไปทั่ว ด้วยการยื่นข้อเสนอริเริ่มใหม่ที่ให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้นานาชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของสหรัฐฯ
ปารีสนั้นประกาศว่า พร้อมช่วยเหลืออเมริกา แต่สุดท้ายต้องหน้าหงายกลับมาเมื่อในที่สุดประธานาธิบดีบารัค โอบามา แบะท่าว่าสนใจข้อเสนอของรัสเซีย โดยส่งสัญญาณขอให้รัฐสภาสหรัฐฯ เลื่อนการลงมติอนุมัติปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียเพื่อลงโทษอัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีโจมตีชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 เดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ปารีสยังแสดงความวิตกว่า ข้อเสนอของมอสโกเป็นเพียงกลลวงฆ่าเวลา จึงเร่งผลักดันญัตติและกำหนดเงื่อนไขเข้มงวดในการลงโทษ หากดามัสกัสตระบัดสัตย์
ทางด้าน อเล็กซานเดอร์ ออร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีวิทยุแห่งเดียวกัน โดยกล่าวหาว่า ญัตติของฝรั่งเศสเป็นกับดักเพื่อเปิดช่องสำหรับการแทรกแซงทางทหาร
ทางด้านกรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวระหว่างปราศรัยทางทีวีช่วงไพรม์ไทม์วันอังคาร (ตรงกับเช้าวันพุธเวลาเมืองไทย) โดยยืนยันว่าได้ขอให้รัฐสภาเลื่อนการลงมติเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียออกไปก่อน ขณะที่คณะรัฐบาลศึกษาข้อเสนอของรัสเซีย และรอดูว่า ซีเรียรักษาคำมั่นหรือไม่
ผู้นำสหรัฐฯ เสริมว่า จะประสานงานกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย รวมทั้งส่งจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศ ไปหารือกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนหมีขาวที่นครเจนีวาในวันพฤหัสฯ (12)
ทว่า โอบามาสำทับว่า เรือพิฆาตติดจรวดร่อนของอเมริกาจะยังประจำอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้านตะวันออก พร้อมลงโทษซีเรียทุกเมื่อ โดยให้เหตุผลว่า การปล่อยผู้นำเผด็จการใช้อาวุธเคมีถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯเอง
ฝรั่งเศสได้เสนอญัตติต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เมื่อวันอังคาร (10ก.ย.) โดยมีเนื้อหากำหนดเงื่อนไขในการทำลายอาวุธเคมีในซีเรีย พร้อมเตือนว่า หากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ขัดขืน จะได้รับผลลัพธ์ขั้นรุนแรง
ต่อมาในวันพุธ (11) นาจาต์ วาลโลด์-เบลกาเซม โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวผ่านสถานีวิทยุฟรานซ์ อินเตอร์ เรดิโอ (อาร์เอฟไอ) ว่าฝรั่งเศสยังมุ่งมั่นในการลงโทษการใช้อาวุธเคมีของอัสซาด และว่าปฏิบัติการทางทหารยังคงเป็นทางเลือก หากกระบวนการทางการทูตในปัจจุบันล้มเหลว
ฝรั่งเศสเสนอญัตติดังกล่าวนี้ หนึ่งวันหลังจากที่รัสเซียสร้างความประหลาดใจไปทั่ว ด้วยการยื่นข้อเสนอริเริ่มใหม่ที่ให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้นานาชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของสหรัฐฯ
ปารีสนั้นประกาศว่า พร้อมช่วยเหลืออเมริกา แต่สุดท้ายต้องหน้าหงายกลับมาเมื่อในที่สุดประธานาธิบดีบารัค โอบามา แบะท่าว่าสนใจข้อเสนอของรัสเซีย โดยส่งสัญญาณขอให้รัฐสภาสหรัฐฯ เลื่อนการลงมติอนุมัติปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียเพื่อลงโทษอัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีโจมตีชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 เดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ปารีสยังแสดงความวิตกว่า ข้อเสนอของมอสโกเป็นเพียงกลลวงฆ่าเวลา จึงเร่งผลักดันญัตติและกำหนดเงื่อนไขเข้มงวดในการลงโทษ หากดามัสกัสตระบัดสัตย์
ทางด้าน อเล็กซานเดอร์ ออร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีวิทยุแห่งเดียวกัน โดยกล่าวหาว่า ญัตติของฝรั่งเศสเป็นกับดักเพื่อเปิดช่องสำหรับการแทรกแซงทางทหาร
ทางด้านกรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวระหว่างปราศรัยทางทีวีช่วงไพรม์ไทม์วันอังคาร (ตรงกับเช้าวันพุธเวลาเมืองไทย) โดยยืนยันว่าได้ขอให้รัฐสภาเลื่อนการลงมติเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียออกไปก่อน ขณะที่คณะรัฐบาลศึกษาข้อเสนอของรัสเซีย และรอดูว่า ซีเรียรักษาคำมั่นหรือไม่
ผู้นำสหรัฐฯ เสริมว่า จะประสานงานกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย รวมทั้งส่งจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศ ไปหารือกับเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนหมีขาวที่นครเจนีวาในวันพฤหัสฯ (12)
ทว่า โอบามาสำทับว่า เรือพิฆาตติดจรวดร่อนของอเมริกาจะยังประจำอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้านตะวันออก พร้อมลงโทษซีเรียทุกเมื่อ โดยให้เหตุผลว่า การปล่อยผู้นำเผด็จการใช้อาวุธเคมีถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯเอง